ออมสินโอน 350 ล้านบาท เสริมสภาพคล่องให้สหกรณ์ออมทรัพย์พัทลุงแล้ว คาดกลางเดือนหน้า ฟ้องยึดทรัพย์ก้อนแรกได้ 150 ล้านจาก 1500 ล้าน เตรียมขยายผลจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่ม
1 min read
ผ่านมากว่า 2 ปีแล้ว หลังมีการจับกุมผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์พัทลุง ซึ่งพบปัญหาการทุจริตกว่า 1500 ล้านบาท โดยมีการจับกุม ดำเนินคดี ผู้เกี่ยวข้องแถว 1 และตามยึดอายัดทรัพย์รวมเกือบ 1500 ล้านบาท และยังประสานงานขอกู้เงินจากธนาคารออมสิน 500 ล้านบาท เพื่อมาเสริมสภาพคล่องให้กับสหกรณ์ โดยล่าสุดทางธนาคารออมสินได้โอนเงินมาปล่อยกู้เพื่อเสริมสภาพคล่องให้ 350 ล้านบาท
ล่าสุด 4 มค 67 พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีที่ ภ.จว.พัทลุง โดยพบว่า ยังมีปัญหาขาดสถาพคล่อง อีก 150 ล้านบาท ถึงจะทำให้สหกรณ์เดินต่อไปได้ ขณะเดียวกันพบว่า กรรมการและผู้บริหารชุดเดิมลาออกหมดแล้ว เหลือผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับบัญชี ซึ่งเป็นวิชาชีพเฉพาะทำงานแค่ 2 คน เพื่อรอการถ่ายโอนข้อมูลให้ครบก่อน จึงจะหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้
อย่างไรก็ตามที่ประชุม ได้มีการเสนอให้จ้างบริษัทสอบบัญชีนอกองค์กร มาช่วยตรวจสอบ อีกชั้นเพื่อจะได้เห็นเส้นทางการเงินที่อาจมีการหมกเม็ดไว้อีกจาก กลุ่มผู้ต้องหาชุดเดิม
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังได้สั่งการให้ขยายผลจับกุมผู้ต้องหา แถว 2 และ 3 ซึ่งขณะนี้ ได้คุยกับทางเลขา ปปง. เพื่อวางแผนดำเนินงานแล้ว โดยจะเน้นการสืบทรัพย์เพิ่ม และรายงานไปยัง ปปง. และจะนัดพูดคุยกับ อัยการทุจริตภาค 9 เพื่อติดตามคดี เนื่องจากพบว่า จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการสั่งฟ้องคดี แม้แต่คดีเดียว
ทั้งนี้ เพื่อให้สหกรณ์เดินหน้าต่อไปได้จะมีการขอความอนุเคราะห์จากธนาคารออมสินเพื่อให้ปล่อยกู้เพิ่มเติมอีก 150 ล้านบาทให้แก่สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง หากได้รับการอนุมัติมารองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติบอกว่าจะทำให้คุณภาพชีวิตของตำรวจที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ดีขึ้นอย่างแน่นอนเพราะจนถึงขณะนี้แต่ละคนก็เริ่มมีรายรับเดือนละอย่างน้อย 4000 บาท หากประหยัดอดออมและปลูกพืชผักตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นแนวทางที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร 10 ทรงสืบสานรักษาต่อยอด มาจนถึงทุกวันนี้ ก็จะสามารถอยู่ได้ โดยไม่เดือดร้อนเหมือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ได้กำชับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง และหัวหน้าสถานีตำรวจทุกนายที่มาร่วมประชุมในวันนี้เพื่อให้กลับไปดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา โดยให้ส่งเสริมให้มีการประกอบอาชีพเสริม ทั้งเกษตรกรรมและปศุสัตว์
ทางด้านหนึ่งในตำรวจที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ ที่มีอยู่กว่า 1800 คน บอกว่า ที่ผ่านมาเพิ่งได้ปันผลมา แต่น้อยมาก และส่วนใหญ่ ยังถูกยึดไว้เป็นประกัน หลายคนจึงยังเดือดร้อน คุณภาพชีวิตยังไม่เป็นอย่างหวัง แต่ก็ยังมีความหวัง ว่าสหกรณ์จะดีขึ้น หลังมีปัญหาทุจริตหมักหมม มากว่า 28 ปี
ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า กลางเดือนหน้า จะมีการฟ้องยึดทรัพย์ก้อนแรก 150 ล้านบาท จากความเสียหายที่เกิดขึ้นในสหกรณ์กว่า 1500 ล้านบาท หลังมีการทยอยอายัดทรัพย์มาตรวจสอบแล้วเกือบ 1500 ล้านบาท
