24 ธันวาคม 2024

หนังสื่อพิมพ์ อินไซด์โปลิคไทม์ – insidepolicetime.com

นังสื่อพิมพ์ อินไซด์โปลิคไทม์ – insidepolicetime.com

ผบช ภ 5 นำทีมตำรวจไซเบอร์เชียงใหม่ บุกยึดจับกุมรวบเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์พร้อมของกลางคารัง !!!

1 min read

วันที่ 2 มิถุนายน 2566 เวลา 11.00 น. ตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 และ พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ร่วมกันแถลงข่าวกรณีจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ พร้อมของกลางนับร้อย

สำหรับการจับกุมครั้งนี้ เนื่องจากได้มีผู้ร้องเรียนมายังเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ศปอส.ภ.จว.เชียงใหม่ ว่าถูกกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรติดต่อผู้ร้องเรียน(ไม่ประสงค์ออกนาม) โดยใช้โทรศัพท์มือถือหมายเลข 0621432569 โทรเข้ามาและข่มขู่ให้เกิดความตกใจกลัว จึงได้มาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ติดตามสืบสวนตามเบาะแสและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น จากการสืบสวนทางเทคนิค พบว่าหมายเลขโทรศัพท์ 0621432569 มีพิกัดการใช้พื้นที่บริเวณบ้านแห่งหนึ่งใน ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ จึงได้รวบรวบพยานหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องและขออนุมัติศาลจังหวัดเชียงใหม่ ออกหมายค้น ซึ่งศาลจังหวัดเชียงใหม่ อนุมัติหมายค้น ตามหมายค้นที่ ค.218/2566 ลง 1 มิถุนายน 2566

ผลการตรวจค้นพบ 1. กล่อง SIM BOX กระจายสัญญาณ จำนวน 5 กล่อง 2. บัญชีธนาคารผู้อื่น จำนวนกว่า 100 บัญชี 3. โทรศัพท์มือถือ จำนวนกว่า 20 เครื่อง และสามารถจับกุม นายอลงกรณ์ (สงวนนามสกุล) และ น.ส.วาสนา(สงวนนามสกุล) ได้ในบ้านหลังดังกล่าว

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 ได้กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การว่าได้ร่วมกันปล่อยเช่าพื้นที่ในห้องพักสำหรับวางกล่องSIM BOX ให้แก่นายฟิน(ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) โดยผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นชายชาวมาเลเซีย โดยได้ค่าตอบแทนต่อเดือนจำนวน 5,000 บาท และร่วมกันจัดหาบัญชีธนาคารและนำออกจำหน่ายหรือปล่อยเช่าแก่ลูกค้า พฤติการณ์และการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐาน “ร่วมกันมี ใช้ นำเข้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมหรือส่วนใดๆ หรือตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต และ เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวด้วยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาญชากรรมทางเทคโนโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด

และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” การกระทำผิดในครั้งนี้ มีการเชื่อมโยงข้อมูลการกระทำผิดในจังหวัดชัยภูมิและนครปฐม ได้ประสานกับตำรวจภูธรภาค 3 และ 7 ทำการขยายผล สำหรับนายทุนในคดีนี้ ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองไว้ส่วนหนึ่งแล้ว.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You may have missed