23 ธันวาคม 2024

หนังสื่อพิมพ์ อินไซด์โปลิคไทม์ – insidepolicetime.com

นังสื่อพิมพ์ อินไซด์โปลิคไทม์ – insidepolicetime.com

“ตำรวจ ปส.ไล่ล่าสกัดทีมนักบินตายแทนซิ่งแหกหนีตายกลางไฮเวย์ ได้พร้อมยาบ้ากว่า 12 ล้านเม็ด”

1 min read

เมื่อ 2 พ.ค.2567 เวลาประมาณ 10.30 น. เจ้าพนักงานตำรวจ กก.1 บก.สกส.บช.ปส. ร่วมกันจับกุม
ผู้ต้องหา 2 คน ดังนี้


1. นายธีรภัทร ฯอายุ 26 ปี อยู่ที่ หมู่ 3 ตำบลพยอม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
2. น.ส.นงนุช ฯ อยู่ที่ หมู่ 3 ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พร้อมของกลาง จำนวน 3 รายการ ประกอบด้วย
1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) จำนวน 28 กระสอบ ใหญ่ และ 1 กระสอบเล็ก รวม
เป็นยาบ้าทั้งสิ้นจำนวนประมาณ 11,950,000 เม็ด (ซุกซ่อนภายในรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น
Hilux Revo สีขาว ทะเบียน บษ 1573 พระนครศรีอยุธยา)
2. รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น Hilux Revo สีขาว ทะเบียน บษ 1573 พระนครศรีอยุธยา
(รถยนต์ที่ใช้ในการซุกซ่อนและลำเลียงยาเสพติด)
3. โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง


โดยกล่าวหา ผู้ต้องหาว่า 1-2 ว่า “ร่วมกันกับพวกที่หลบหนี จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมท
แอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและแพร่กระจายในกลุ่ม ประชาชน หรือ เป็นการกระทำที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ”
สถานที่เกิดเหตุ จับกุมผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ได้ที่บริเวณ ริมถนนในหมู่บ้าน ตำบลพยอม อำเภอวังน้อย จังหวัด
พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 2 พ.ค.2567 เวลาประมาณ 10.30 น.
พฤติการณ์ในการจับกุมก่อนเกิดเหตุ เจ้าพนักงานตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. รับแจ้งจากสายลับจะมีกลุ่มบุคคลซึ่งมีพฤติการณ์ น่าเชื่อว่ามีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ภาคอีสานตอนบน และจะนำมาส่งให้ลูกค้าตามสั่งการของผู้ว่าจ้างในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล โดยจะใช้รถยนต์นั่งส่วนบุคคล จำนวน 2 คัน เป็นรถนำ/สำรวจเส้นทาง และรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น Hilux Revo สีขาว ทะเบียน บษ 1573 พระนครศรีอยุธยา (รถที่ใช้ในการซุก
ซ่อนลำเลียงยาเสพติด) โดยกลุ่มบุคคลดังกล่าวใช้เส้นทางจากพื้นที่ชายแดน จว.นครพนม ผ่าน จว.นครพนม – จว.อุดรธานี – จว.ขอนแก่น – จว.นครราชสีมา -จว.สระบุรี – จว.พระนครศรีอยุธยา จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ต่อมาเวลาประมาณ 06.00 น. (2 พ.ค.67) เจ้าพนักงานตำรวจชุดปฏิบัติการ ได้ออกติดตามรถยนต์
เป้าหมายทั้ง 2 คัน ในพื้นที่ จว.นครราชสีมา จนกระทั่งเวลาประมาณ 09.30 น. พบรถทั้งสองคัน ขับ นำและตาม
ทิ้งระยะประมาณ 3-5 กม. จึงได้สะกดรอยติดตามเป้าหมายทั้งสองคัน จนกระทั่งเวลาประมาณ 10.00 น. รถยนต์
เป้าหมายทั้งสองคันเร่งเครื่องเพิ่มความเร็ว น่าจะทราบว่ามีการสะกดรอยติดตาม จากนั้นทั้งสองคันพยายามขับ
หลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามไปอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเวลาประมาณ 10.30 น. รถยนต์ทะเบียน บษ 1573
พระนครศรีอยุธยา เสียหลักพุ่งชนไฟฟ้า ริมถนนในหมู่บ้าน ตำบลพยอม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อตรวจสอบ พบนายธีรภัทรฯ เป็นผู้ขับขี่ และ น.ส.นงนุช ฯ โดยสารมาด้วย ได้รับบาดเจ็บสอบถามเบื้องต้นทั้งสองคนยอมรับว่าลำเลียงยาเสพติดของกลางมาจากพื้นที่ จว.หนองคาย สำหรับ น.ส.นงนุช ฯ ซึ่งได้รับบาดเจ็บแน่นหน้าอกเนื่องจากได้รับแรงกระแทกขณะรถชนเสาไฟฟ้า ได้ประสานเจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้น และผู้ได้นำตัว น.ส.นงนุชฯ ผู้บาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลวังน้อย เพื่อทำการรักษาต่อไป ผลการตรวจแพทย์ได้ทำการเย็บแผลที่ปาก ทำการ X-RAY ไม่พบอาการบาดเจ็บหรือกระดูกแตกหักแต่อย่างใด จึงได้ทำการฉีดยาบาดทะยัก และให้ยามารับประทาน ส่วนรถยนต์เป้าหมายอีกคันใช้ความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปได้จากการซักถามผู้ต้องหาทั้งสอง ให้การยอมรับว่าได้ร่วมกันลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาจริง โดยนายธีรภัทรฯรับว่า ตนและภรรยา น.ส.นงนุชฯ มีอาชีพรับจ้างขับรถยนต์ส่งสินค้าของบริษัทขนส่งเอกชนเคอรี่ โดยใช้รถยนต์ของตนที่เช่าซื้อมา ต่อมาตนและน.ส.นงนุชฯ ได้รับการชักชวนจากเพื่อนให้มาลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ริมแม่น้ำโขงจากจ.นครพนม ไปส่งที่ จ.อยุธยา จะได้รับค่าจ้างครั้งละ 50,000 บาท โดยตนและภรรยาได้ทำลักลอบทำมาแล้ว 1ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรก เมื่อวันที่ 27-28 เม.ย.67 ที่ผ่านมา โดยไปรับยาบ้ามา 14 กระสอบ จากนครพนมส่งแถวพื้นที่อ.วังน้อย ร่วมกับกับเพื่อนๆ พร้อมรถยนต์4คัน และในครั้งนี้ ได้ร่วมกับเพื่อนๆที่จะคอยขับรถยนต์นำทางอีกสองคัน ตนเป็นคนขับรถบรรทุกยาเสพติด พากันไปรับยาเสพติดจากพื้นที่ จ.หนองคาย แล้วพากันเดินทางมุ่ง
หน้าจังหวัดอยุธยา ระหว่างทางตนกับพวกที่คอยขับรถยนต์เฝ้าระวังจะโทรศัพท์ประชุมสายกันตลอดเส้นทาง ได้
สังเกตุเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่คอยติดตาม จึงได้แยกย้ายขับรถยนต์หลบหนี และตนได้ขับรถยนต์เสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าและถูกจับกุมดังกล่าว ส่วนพวกที่เหลือหลบหนีไปได้
ประวัติ นายธีรภัทรฯ เคยถูกจับกุมดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ( ยาบ้า จำนวน 809 เม็ด ,ข้อหา
ครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายฯ ที่ สภ.วังน้อย จว.พระนครศรีอยุธยา ศาลพิพากษาจำคุก 7 ปี 12 เดือน
สารภาพลดเหลือ จำคุก 3 ปี 4 เดือน 15 วัน พ้นโทษมาประมาณ 2 ปี
สำหรับในส่วนรถยนต์ทั้งสองคันมีหน้าที่ขับรถนำทางเพื่อสำรวจเส้นทางและด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ และ
คอยแจ้งข้อมูลด่านเส้นทางให้กับรถที่บรรทุกยาเสพติดที่ผู้ต้องหาขับตามหลังมาที่หลบหนีไปนั้น ชุดจับกุมจะได้
สืบสวนขยายผลเพื่อออกหมายจับ และติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป


พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวชัย ผบช.ปส.เผยว่า กลุ่มผู้ต้องหาเป็นทีมงานลำเลียงตายแทน ที่อาศัยฉววโอกาสที่ตน
มีอาชีพขับรถยนต์รับจ้างขนสินค้ากับบริษัทขนส่ง มาลักลอบขนยาเสพติดดังกล่าว และได้ค่าจ้างเพียง 50,000
บาท แต่ก็ไม่รอดพ้นจากสายตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการสืบสวนจนสามารถจับกุมได้ ฝากถึงใครที่จะเข้ามาในวงการนี้ขอให้คิดให้ดี เพราะแม้รอดพ้นทำงานได้สำเร็จในครั้งแรก และได้เงินมาง่ายๆ แต่สุดท้ายท่านจะถูก
เจ้าหน้าที่จับกุมแน่นอน เพราะเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนกันอย่างเข้มข้นอยู่ตลอดเวลา และท่านจะต้องเสีย
อิสระภาพและโทษที่จะได้รับถึงประหารชีวิต ไม่คุ้้มกับค่าจ้างที่จะได้รับ และในปีนี้ บช.ปส.จะยังคงความเข้มข้นในการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดและการขยายผลการจับกุมและยึดทรัพย์เครือข่ายผู้ค้า ผู้สั่งการที่อยู่เบื้องหลัง ที่ผ่านมาสามารถออกหมายจับและจับกุมได้จำนวนหลายรายและยึดทรัพย์ได้จำนวนมาก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You may have missed