ตำรวจไซเบอร์รวบเพิ่มแก๊งอ้างการไฟฟ้า หลอกสแกนหน้า สูญเงินกว่าสองแสนบาท
1 min readผู้สื่อข่าว
หนังสือพิมพ์
อินไชด์โปลิศไทม์
รายงานจาก
สืบเนื่องจากภรรยาของผู้เสียหายได้เปิดโทรศัพท์ของผู้เสียหาย พบข้อความไลน์การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พบข้อความว่า “มาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าตามนโยบายของรัฐบาล” และมีรายละเอียดในข้อความดังกล่าวพร้อมแจ้งว่าได้ทำการลงทะเบียนรับสิทธิ์ช่วยเหลือค่าไฟฟ้าและคืนเงินค่ามิเตอร์หรือยัง จากนั้นคนร้ายได้ให้ภรรยาของผู้เสียหายทำรายการตามที่คนร้ายได้ส่งข้อมูลมาทางไลน์ ซึ่งคนร้ายได้ส่งลิงก์และให้กรอกข้อมูลตามที่กำหนด ภรรยาของผู้เสียหายจึงได้ทำรายการตามที่คนร้ายได้บอกทุกขั้นตอน จนเสร็จสิ้น โดยคนร้ายได้ให้ภรรยาของผู้เสียหายสแกนใบหน้าของผู้เสียหาย ภรรยาของผู้เสียหายจึงได้ให้ผู้เสียหายทำการสแกนใบหน้าจำนวน 2 ครั้ง จากนั้นคนร้ายแจ้งว่าเรียบร้อยแล้วและได้ทำการวางสายโทรศัพท์ไป
จนกระทั่งผู้เสียหายได้มาทำการถอนเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ปรากฎว่าเงินในบัญชีธนาคารของ ผู้เสียหายได้ถูกโอนไปเข้าบัญชีธนาคารคนร้าย จำนวนเงิน 228,700 บาท ซึ่งต่อมา กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ได้จับกุมหนึ่งในขบวนการแอบอ้างการไฟฟ้า หลอกภรรยาให้สแกนหน้าสามี จนสูญเงินไปกว่าสองแสนบาท ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปเมื่อวันที่ 16 ส.ค.67พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 กวาดล้างจับกุมขบวนการหลอกเป็นการไฟฟ้าติดตั้งแอปดูดเงินอย่างต่อเนื่อง
ต่อมาวันที่ 12 ก.ย.67 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 นำโดย พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3, พ.ต.ท.วีระศักดิ์ แก้วเนียม รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3, พ.ต.ท.เลอศักดิ์ พิเชษฐไพบูลย์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ, พ.ต.ต.ธวัช ทุเครือ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า น.ส.มนันญาฯ อายุ 33 ปี ชาว อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พักอาศัยอยู่ที่บ้านเช่าหลังหนึ่ง ในซอยเจ้าพ่อกวนอู หมู่ 1 ต.บ้านช้าง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี
จึงทำการวางแผนเข้าจับกุมจนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมหาสารคาม ที่ จ.220/2567 ลง 8 ส.ค.67 ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่นโดยการปลอมตัวเป็นผู้รับ ร่วมกันโดยทุจริตนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จทั้งหมดหรือบางส่วนโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” และหมายจับของศาลจังหวัดเกาะสมุย ที่ จ.92/2567 ลง 19 ก.ค.67 ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่นโดยการปลอมตัวเป็นผู้รับ ร่วมกันโดยทุจริตนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จทั้งหมดหรือบางส่วนโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา” และมีความเชื่อมโยงกับคดีในพื้นที่ สภ.ชนบท และ สภ.บ่อผุด โดยมีการเปิดบัญชี รวม 3 ธนาคาร มูลค่าความเสียหายรวมทุกพื้นที่ กว่า 2 ล้านบาท โดยจับกุมได้ขณะยืนอยู่บริเวณริมถนนในซอยศาลเจ้าพ่อกวนอู หมู่ 1 ต.บ้านช้าง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี นำส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สอท.3 มาดำเนินคดีได้ในที่สุด