สืบนครบาล รวบ ลูกจ้างสาวลักทรัพย์นายจ้าง เชิดเงินค่ากาแฟที่ทำงานเก่านับแสน สารภาพคิดน้อย-หนี้ท่วมตัว
1 min readผู้สื่อข่าว
หนังสือพิมพ์
อินไชด์โปลิศไทม์
รายงานจาก
ตามนโยบายของ พล.ต.ท..ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้ปราบปรามอาชญากรรมผู้กระทำความผิดทางอาญาในทุกรูปแบบที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน
วันที่ 29 กันยายน 2567 เวลาประมาณ 13.00 น.
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.ฯ พ.ต.ต.สุนทร ทองพงษ์เนียม สว.กก.สส.1ฯ , ร.ต.อ.ปรัชญา โคตรสาขา รอง สว.กก.สส.1ฯได้ร่วมกันจับกุมตัว
นางสาวปัฐมาภรณ์ อายุ 27 ปี ภูมิลำเนา ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 4635/2567 ลงวันที่ 24 กันยายน 2567
ในข้อหา “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้าง”
จับกุมได้ที่ ณ หน้าร้านอาหาร ซอยอารีย์ 4 ฝั่งเหนือ แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์กล่าวคือ ก่อนเกิดเหตุประมาณปี 2565 ผู้เสียหายได้ว่าจ้าง นางสาว ปัฐมาภรณ์ฯ ผู้ถูกจับ เป็นลูกจ้างภายในร้าน Coffee & Bakery ชื่อดังย่านสามเสน กรุงเทพ โดยแจ้งให้พนักงานทราบว่าหากมีเพื่อนสนิทและญาติของผู้เสียหาย เข้ามาใช้บริการภายในร้าน ให้นำเงินสดประมาณ 30,000 บาทที่เก็บไว้ในเคาร์เตอร์ของร้านมาชำระแทน หากเงินใกล้หมด ให้แจ้งผู้เสียหายเพื่อจะได้นำเงินมาเติมอยู่เป็นระยะๆ
ซึ่งในขณะที่ นางสาวปัฐมาภรณ์ฯ ทำงานภายในร้าน มักมีพฤติกรรมในการขอยืมเงินพนักงานภายในร้าน รวมถึงผู้เสียหายเป็นจำนวนหลายครั้ง ซึ่งในบางครั้งผู้ถูกจับยังอ้างว่าแม่ของตนได้เสียชีวิต และไม่สามารถนำร่างของมารดาไปประกอบพิธีทางศาสนาได้ เนื่องจากไม่มีเงินไปชำระให้แก่ทางโรงพยาบาล ด้วยความใจอ่อนและสงสาร ผู้เสียหายจึงได้มอบเงินจำนวน 20,000 บาท ให้แก่ผู้ถูกจับ แต่มาภายหลังมาทราบความจริงผู้ถูกจับหลอกลวง และ มารดาของนางสาวปัฐมาภรณ์ฯ มิได้ล้มป่วยและเสียชีวิตแต่อย่างใด ซึ่งนางสาวปัฐมาภรณ์ฯรับว่าได้โกหกจริง
ต่อมาประมาณเดือน ก.ย.66 ผู้เสียหายพบความผิดปกติ โดยเงินจำนวนดังกล่าวได้ลดน้อยลงเร็วผิดปกติ แต่ยอดการจำหน่ายทางร้านมิได้เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด จึงได้ทำการตรวจสอบและพบว่า นางสาวปัฐมาภรณ์ฯ ได้ทำการแอบลักเอาเงินที่ผู้เสียหายเก็บไว้ในเคาร์เตอร์เพื่อให้เพื่อนสนิทและญาติของผู้เสียหายได้ชำระค่าบริการภายในร้านเป็นจำนวนหลายครั้งกว่า 56 ครั้ง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 213,000 บาท เมื่อทางร้านทราบเรื่อง จึงได้สั่งพักงานผู้ถูกจับและไม่ได้เข้ามาทำงานอีกเลย ทางร้านจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พงส.สน.พญาไท เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสอบถามผู้ถูกจับให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ทำงานอาชีพเป็นพนักงานประจำภายในร้านกาแฟมาแล้วจำนวนหลายร้าน ในระหว่างนั้นตนได้กู้ยืมเงินนอกระบบจากบุคคลภายนอกจำนวนหลายรายเป็นจำนวนเงินกว่า 60,000 บาท โดยจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 20 และร่วมเล่นวงแชร์จำนวนหลายวง เพื่อนำเงินดังกล่าวมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและเลี้ยงดูบุคคลภายในครอบครัวซึ่งอยู่ด้วยกันรวม 6 ชีวิต แต่พอมาถึงช่วงการแพร่ระบาดของโรค COVID 2019 ตนได้ถูกลดเงินเดือนและรายจ่ายเพิ่มมากขึ้นจนทำให้รายได้ไม่เพียงพอต่อการใช้จ่าย ตนจึงได้ออกมาหางานทำใหม่แต่ก็อยู่ได้ไม่นาน
จนกระทั่งปี 2565 ตนได้เข้ามาทำงานภายในร้าน Coffee & Bakery ของผู้เสียหาย พบเห็นว่าผู้เสียหายมักนำเงินมาเก็บไว้ภายในเคาน์เตอร์ร้าน ซึ่งเป็นเงินที่ใช้ชำระค่าอาหารและเครื่องดื่มของเพื่อนและญาติของผู้เสียหาย(กรณีเข้ามาใช้บริการ) เมื่อตนทำงานอยู่ที่ร้านได้ประมาณปีกว่า พบเห็นพฤติการณ์ดังกล่าวมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อประมาณเดือน ก.ย.66 ตนเกิดปัญหาขัดสนเรื่องเงินทองภายในครอบครัว จึงเกิดความโลภความอยากได้ขึ้นมา จึงได้ฉวยโอกาสที่เจ้าของร้านและพนักงานไม่อยู่ แอบลักเอาเงินออกจากเคาน์เตอร์ดังกล่าวมาโดยตลอด ครั้งละประมาณ 3,000 – 5,000 บาท เป็นจำนวนกว่า 50 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 200,000 บาท ภายหลังทางร้านได้สั่งให้ข้าฯพักงาน ข้าฯจึงมิได้เข้าไปทำงานภายในร้านและเพิ่งจะได้งานใหม่เป็นพนักงานภายในร้านกาแฟ ย่านอารีย์ ได้ประมาณ 2 เดือน ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวขณะทำงานได้ในเวลาต่อมา โดยรับสารภาพว่า “คิดน้อย”แอบลักเงินดังกล่าวมาโดยตลอด ซึ่งไม่คิดว่าทางร้านจะตรวจสอบแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนำส่ง พงส.สน.พญาไท เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
https://fb.watch/uWrl4lbY0b/?
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ฝากเตือนไปยังเจ้าของ/ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร ทุกท่าน นอกจากการบริหารการลงทุนภายในร้านของท่านแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ การตรวจสอบพฤติกรรมของพนักงาน ว่ามีพฤติกรรม การกระทำในลักษณะที่เสี่ยง หรือล่อแหลมต่อการก่อเหตุกระทำความผิดหรือไม่ เพื่อป้องกันมิให้ท่านได้ตกเป็น “เหยื่อ” ของบุคคลใกล้ตัว อันอาจกระทบต่อการดำเนินกิจการธุรกิจของท่าน หากท่านพบเห็นเหตุสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที