ชาวชุมชนยายวรรณวอนสื่อ ขอความเป็นธรรมกรณีทางสัญจรเข้าออกจะถูกตัดเดินแถบไม่ได้
1 min readวันที่ 05/11/67 เวลา13.30 น.ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ภายในซอย พระราม 2 28 แยก 17 หรือชุมชนยายวรรณ แขวงจอมทอง เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นข้อพิพาทกรณีทางเข้าออกของชุมชนจะถูกบริษัทแห่งหนึ่งทำการปิดกั้น ซึ่งตีเส้นสีขาวแบ่งเขตพื้นที่ ทำให้ชาวชุมชน เดินเข้าออกหรือสัญจรยากลำบาก หากถูกปิดทางแล้วจะไม่สามารถเดินเข้าออกภายในชุมชนนี้ได้ ทางก็จะเหลือแค่ 1 ไม้บรรทัด และไม่สามารถเดินสวนทางกันได้ อีกในขณะที่คนในชุมชน ยังมี ผู้สูงอายุและผู้ป่วย ที่ต้องสัญจรผ่านเส้นทางนี้เพื่อไปหาหมอ หากถูกปิดทางแล้วก็ไม่สามารถที่จะสัญจรออกมาได้
ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์คุณสหัสวิเชียรปัญญา ซึ่งคุณแม่ป่วยต้อง พบแพทย์บ่อยครั้งเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เดิมทีแล้วทางสัญจรนี้เข้าออกมากกว่า 100 ปีแล้ว คุณปู่อยู่ที่นี่ประมาณ 90 ปีคุณพ่อตัวเอง 80 ปีและปัจจุบันตัวเอง ก็อายุ 63 แล้วซึ่งชุมชนนี้ใช้ทางนี้เข้าออกเป็นหลักซึ่งจะออกสู่หน้าปากซอยได้ง่ายถึงถนนใหญ่ได้ดี แต่นะปัจจุบันนี้หากถูกปิดซอยหรือ ถูกกั้นให้เหลือทางเข้าออกแค่นิดเดียว พวกเราชาวในชุมชนก็จะลำบากคนป่วยก็ออกยากหากเกิดเหตุหรือเกิดเพลิงไหม้ก็ไม่สามารถเข้ามายับยั้งหรือช่วยเหลือคนในซอยได้ ใจจริงอยากบอกเจ้าของพื้นที่ว่าให้ทางพวกเราได้สัญจรได้นำผู้ป่วยไปหาหมอ อย่าปิดทางพวกเราเลย วอนสื่อขอความเป็นธรรมด้วยนะครับ
ด้านคุณยายแก้วได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่าตนเองป่วยขาเดินไม่ค่อยไหวต้องใช้ไม้วอกเกิ้ลช่วยพยุงตัวและต้องพบแพทย์ทุกๆอาทิตย์ ไม่อยากให้เจ้าของที่ปิดทางเข้าออกเพราะว่าจะทำให้ตัวของคุณยายเองเขาออกลำบากและเป็นทางเดียวที่ออกไปถนนใหญ่ได้ง่ายที่สุด และรวดเร็วอยากขอความเป็นธรรมให้กับคนในซอยได้มีทางสัญจรเข้าออกถ้าเกิดเขามาปิดทางเราก็ไม่รู้จะทำยังไงจะเข้าออกกันยังไงอยากฝากไว้ตรงนี้ด้วย
และซึ่งทางพิพาทมีลักษณะเป็นทางสาธารณะ เจ้าของที่ดินและประชาชน ทั่วไปใช้เป็นทางเข้าออกสู่ถนนสาธารณะมานานหลายสิบปี ประชาชน ผู้หนึ่งผู้ใดรวมทั้งเจ้าของที่ทั้งสองไม่มีสิทธิกระทำการใด ๆ ซึ่งจะมีผลเป็นการขัดขวางการใช้ทางพิพาท การที่ทั้งสองก่อสร้างรั้วปิดกั้นประตูหน้าบ้านโจทก์ ปลูกต้นไม้ ทำประตูเหล็กปิดกั้นทางเข้าออกบนทางพิพาทและติดป้ายห้ามเข้ากับนำรถยนต์จอดขวางทางพิพาทเพื่อมิให้โจทก์และประชาชนทั่วไปใช้ทางพิพาท ถือได้ว่าเป็นการใช้สิทธิของตนเป็นเหตุให้โจทก์และผู้อื่นได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินที่ควรคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเป็นไปตามปกติ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องเพื่อให้จำเลยทั้งสองเลิกปิดกั้นทางพิพาทโดยไม่จำต้องคำนึงว่าโจทก์หรือผู้ใช้ทางพิพาทจะมีทางอื่นออกสู่ทางสาธารณะหรือไม่ และได้ประกาศไว้ในเอกสารฉบับหนึ่ง
คุณป้า ประยูร เตียเปิ้น วัย70
ประชาชนที่พักอาศัยในซอย เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าตนเองเดิมทีอยู่ที่อื่นพอแต่งงานก็ย้ายมาที่นี่ก็หลายปี พอรู้ข่าวว่ามีการวัดเส้นแบ่งตารางภายในซอยปากทางเข้าชุมชน ก็รู้สึกไม่สบายใจเพราะว่าตัวเองก็อยู่มาหลายสิบปีแล้ว หากถูกปิดกั้นอย่างนั้นภายในซอยเกิดเหตุหรือเกิดเพลิงไหม้ก็ไม่สามารถที่จะเข้ามาช่วยคนภายในซอยได้ รู้สึกไม่ดีเหมือนกันอยากให้เขาเข้าใจคนที่อยู่ภายในซอยมาก่อนว่าใช้ทางนี้เป็นทางหลักทางสัญจรออกไปนอกถนนใหญ่ บางบ้านก็มีคนเฒ่าคนแก่บางบ้านก็มีผู้ป่วยที่ต้องใช้เส้นทางนี้เป็นประจำ หากถูกปิดกั้นแล้วก็คงจะเดินทางกันลำบากแม้แต่เดินสวนกันก็ยังไม่ได้ อยากฝากบอกเจ้าของที่ดินแปลงนี้ว่า ช่วยเหลือที่ให้พวกเราได้สัญจรเข้าออก ให้เราได้เดินทางหรือให้คนเฒ่าคนแก่ออกไปหาหมอได้อย่างสะดวกเถอะค่ะ อยากฝากไว้แค่เท่านี้ วอนสื่อขอความเป็นธรรมด้วยนะคะ
และตัวแทนชุมชนยายวรรณ คุณบุรินทร์ สมันตรัฐ ได้ขอความเป็นธรรมขอความอนุเคราะห์สื่อ เพื่อช่วยเหลือให้ประชาชนที่อยู่ในซอยมีทางเดินเข้าออก อย่างสะดวก และอยากให้เจ้าของยกเลิก หนังสือ หรือ การทุบกำแพงเพื่อที่จะสร้างกำแพงตามแนวเขตจึงอยากฝากบอกเจ้าของพื้นให้คนในชุนชนเข้าออกได้ดีดังเดิมและให้ทางดังกล่าวเป็นทางสาธารณะของชุมชน
ทั้งนี้ชาวชุมชนยายวรรณได้รวมตัวกันเพื่อขอความเป็นธรรม กรณีเส้นทางเข้าออกที่เป็นข้อพิพาทที่ถูกเส้นขีด แบ่งกั้นอาณาเขต ของบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งเดิมทีเจ้าของที่คนเก่าได้ก่อกำแพงแบ่งเขตทางเข้าออกไว้ให้สัญจรอย่างสะดวกเป็นที่เรียบร้อยแต่เนื่องจากถูก แบ่งขายพื้นที่กลายเป็นผู้ครอบครองคนใหม่ กลับถูกขีดเส้นแบ่งเขต ทำให้ประชาชนหรือชุมชนภายในซอย ไม่สามารถเข้าออกภายในซอยนี้ได้หรือเข้าออกได้ก็คงยากลำบากเพราะว่าทางอาจจะเหลือแค่ 1 ไม้บรรทัดซึ่งไม่สามารถเดินสวนกันได้ ทั้งนี้วอนสื่อและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาช่วยเจรจา อย่างสันติวิธี เพื่อที่จะเปิดทางสัญจรเข้าออกนี้อย่าง ปกติเช่นเคย