แถลงผลการปฏิบัติของกองบังคับการตำรวจจราจร ผลการกวดขันจับกุมผู้ขี่รถยนต์, รถจักรยานยนต์ บนถนนวิภาวดีรังสิตและ บนทางพิเศษในข้อหา ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้อื่น
1 min readเมื่อเวลา17.30น. วันที่ 26 พฤศจิกายน พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผบก.จร. แถลงผลการปฏิบัติของกองบังคับการตำรวจจราจร ผลการกวดขันจับกุมผู้ขี่รถยนต์, รถจักรยานยนต์ บนถนนวิภาวดีรังสิตและ บนทางพิเศษในข้อหา ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้อื่นและ พยายามขับรถแข่งในทางโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากหัวหน้าพนักงานจราจรรวมถึงผู้ซ้อนท้าย ซึ่งพบกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ มีพฤติกรรมขับขี่แข่งขันกันบนท้องถนนโดยใช้ช่องทางหลัก จับกุมผู้กระทำความผิด รวมจำนวน 50 คน (ผู้ใหญ่ 44 คน, เด็กและเยาวชน 6 คน) และยึดรถกระบะ 1 คัน, รถยนต์ 2 คัน, รถจักรยานยนต์จำนวน 43 คัน ณ บริเวณ ชั้น 1 บก.จร.
พล.ต.ท.สำนาญ กล่าวว่า ทาง ผบ.ตร.ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจป้องกันและปราบปรามการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึง
ความปลอดภัย หรือความเดือดร้อนของผู้อื่น แข่งรถในทาง และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยมีเป้าหมายในการลดความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน จากการขับขี่รถยนต์
รถจักรยานยนต์ โดยในลักษณะก่อความเดือดร้อนรำคาญ ไม่เคารพกฎหมายบ้านเมือง ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น และความผิดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอันจะส่งผลต่อ
การก่ออาชญากรรมที่รุนแรงอื่นๆ เช่น ทะเลาะวิวาท หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ โดยเฉพาะการลดความบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลสัมฤทธิ์ที่ได้จากการ ปฏิบัติในครั้งนี้ ในครั้งนี้ ไม่ได้ เน้นไปที่ผลการจับกุมแต่จะเน้นที่การป้องปราม โดยเจ้าหน้าที่จะเข้าไปพูดคุยกับผู้ก่อเหตุก่อน เพื่อไม่ให้กระทำความผิด สะท้อนผลการจับกลุ่มที่ลดลง และความพึงพอใจของประชาชน
ในส่วนของ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ “ทริปน้ำไม่อาบ”ที่ประชาชนให้ความสนใจกันอยู่ในขณะนี้ ท่านจะอาบน้ำหรือไม่อาบน้ำก็ไม่เป็นไร แต่รถต้องถูกต้องตามกฎหมาย ต้องมีใบขับขี่ จากรายงานของเจ้าหน้าที่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ทราบว่าได้จับกุมดำเนินคดีกับบุคคบกลุ่มนี้ไปถึง 1000 ราย
นอกจากนึ้ยังฝากไปถึง ประชาชน หรือสื่อมวลชน หากใครมีหลักฐานหรือกล้องหน้ารถ ให้ส่งมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะถือเป็นร่วมมือกันทุกภาคส่วน เพราะหากให้ เจ้าหน้าที่ดำเนินการไล่จับกุมระหว่างที่ก่อเกตุอาจจะเกิดอันตรายต่อเจ้าหน้าที่หรือประชาชนที่ร่วมใช้รถใช้ถนน และฝากเตือนไปยังร้านแต่งรถที่อย่าถือโอกาสนี้มาร่วมตัวกัน แต่หากจะมารถของพวกท่านก็ ทำถูกต้องตามกฎหมาย พล.ต.ท. สำราญ กล่าว..
นอกจากนี้ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 ยังได้ทลายร้านขายท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ผิดกฎหมาย ปิดล้อมตรวจค้น จำนวน 8 เป้าหมาย
จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ทำผลิตภัณฑ์ที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ต้องเป็นไปตาม
มาตรฐานโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมโดยรู้อยู่ว่า
เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำจำหน่ายในราชอาณาจักรอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย
ตาม พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ.2557 มาตรา 20 ,36 ประกอบมาตรา 48, 55 “
พร้อมด้วยของกลาง
ได้ร่วมกันทำการตรวจยึดท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ผิดกฎหมาย ทั้งหมด จำนวน 57 ใบ