ตำรวจไซเบอร์จับก๊วนบัญชีม้าเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นตำรวจ หลอกผู้เสียหายติดตั้งแอปพลิชันดูดเงิน โอนเข้าบัญชีชาวกัมพูชา ข้ามแดนมากดเงินสดในไทย
1 min readพล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
(รรท.ผบช.สอท.) ได้มอบนโยบายให้กับข้าราชการตำรวจ บช.สอท. ภัยไซเบอร์เป็นนโยบายหลักที่ทางรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญ เน้นย้ำทุกกองบังคับการในสังกัดให้ปฏิบัติการเชิงรุก ควบคู่กับการดำเนินการเชิงรุก ในเรื่องของการจัดการคดีออนไลน์ที่เกิดขึ้นให้เป็นไปด้วยความมีประสิทธิภาพ
ล่าสุด พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รอง ผบก.สอท.2 รรท.ผบก.สอท.3 มอบหมายให้ พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3 นำกำลังติดตามจับกุม 7 ผู้ต้องหาแก๊งบัญชีม้าคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา หลอกลวงผู้เสียหายให้โอนเงิน มูลค่าความเสียหายเกือบล้านบาท
พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2565 ผู้เสียหายอาศัยอยู่ที่ บ้านโคกกลาง จ.อุดรธานี ได้รับโทรศัพท์จากคนร้ายอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ ตรวจสอบพัสดุที่มีชื่อผู้เสียหายเป็นผู้ส่ง ปลายทางจังหวัดเชียงใหม่ ภายในกล่องพัสดุมีพาสปอร์ตและบัตรประชาชนจำนวนหลายใบ จึงเชื่อว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด จึงได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.ศรีราชา ไว้แล้ว โดยอ้างว่าเกี่ยวกับคดีให้ผู้เสียหายติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา โดยผู้ต้องหาให้เพิ่มไลน์เป็นเพื่อนกับผู้ต้องหาที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา จากนั้นผู้ต้องหาได้ให้ผู้เสียหายแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยการถ่ายภาพ บัตรประจำตัวประชาชนและหน้าสมุดบัญชีธนาคารส่งไปให้ และให้ผู้เสียหายติดตั้งแอปพลิเคชันที่คนร้ายอ้างว่าเป็นแอปพลิเคชันของดีเอสไอ เพื่อใช้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน เมื่อผู้เสียหายดำเนินการตามขั้นตอน ปรากฏว่าเงินในบัญชีธนาคารของผู้เสียหายได้ถูกโอนออกไปยังบัญชีธนาคาร
ชื่อบัญชี นางสาวอมรา จำนวน 985,706.66 บาท จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่าหลังจากที่เงินในบัญชีธนาคารของผู้เสียหายถูกโอนออกจากบัญชีแล้ว ได้มีการโอนต่อไปยังบัญชีประเทศเพื่อนบ้าน
จากการสืบสวนแกะรอยเส้นทางการเงิน พบว่าแก๊งดังกล่าวมีการใช้บัญชีม้าทั้งสิ้น 7 บัญชี จึงรวมรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 7 ราย ปัจจุบันสามารถจับกุมได้แล้ว จำนวน 6 ราย ได้แก่
1. น.ส.อมราฯ ผู้ต้องหาหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 406/2567 ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 จับกุมได้ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ วันที่ 2 ธันวาคม 2567
2. นายดนุพลฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุดรธานี ที่ 6/2567 ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 จับกุมได้ที่บ้านพักคนงานก่อสร้างไม่มี จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ให้การว่า เปิดบัญชีโดยการชักชวนของ นายกรณ์ เป็นเพื่อนที่เรียนด้วยกัน เปิดบัญชีผ่านทางออนไลน์โดยใช้โทรศัพท์มือถือของนายกรณ์ จากนั้นนายกรณ์ พาไปยืนยันตัวตนที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ใน จ.ปทุมธานี ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินสด จำนวน 1,000 บาท
3. น.ส.มนัสชนนีฯ ผู้ต้องหาหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุดรธานี ที่ 7/2567 ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 จับกุมได้บริเวณริมถนนสาธารณะเส้นถนนบุญวาทย์ จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ให้การว่า เปิดโดยการชักชวนของรุ่นพี่ชื่อ น.ส.วรรณกรฯ ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินสดจำนวน 700 บาท
4. นางป้อมฯ ผู้ต้องหาหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 408/2567 ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 จับกุมได้ จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 ให้การว่า เปิดบัญชีธนาคารโดยการชักชวนของหญิง จำนวน 2 คน ไม่ทราบ
ชื่อ-นามสกุลจริง ชักชวนให้คนในหมู่บ้านไปเปิดบัญชีธนาคารให้ ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินสด จำนวน 1,000 บาท
5. น.ส.ศิรินทิพย์ฯ ผู้ต้องหาหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 409/2567 ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 ปัจจุบันถูกคุมขังในคดีอื่นที่เรือนจำกลางจังหวัดสิงห์บุรี
6. น.ส.รัตนาฯ สัญชาติกัมพูชา ผู้ต้องหาหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 410/2567 ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 จับกุมได้บริเวณอาคารขาเข้า จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567
จากการสืบสวนพบว่าเป็นบัญชีปลายทางที่รับโอนเงินจากบัญชีม้าทั้งหมด โดยผู้ต้องหาให้การว่า เป็นผู้ใช้บัญชีธนาคารดังกล่าวเองเพื่อใช้รับแลกเงิน โดยมีเพื่อนชื่อ ทีดา สัญชาติกัมพูชา ติดต่อมาขอแลกเงินสกุลบาท โดยจะโอนเงินจากบัญชีธนาคารมาให้ผู้ต้องหา จากนั้นผู้ต้องหาจะนำเงินสดมอบให้ และผู้ต้องหาจะข้ามชายแดนมาที่ประเทศไทยเพื่อกดเงินจากบัญชีธนาคารกลับประเทศไป เพื่อใช้สำหรับแลกเงินครั้งต่อไป ได้รับค่าตอบแทนจากการแลกเงิน 0.5%
ทั้งนี้ ยังมีผู้ต้องหาที่ยังคงหลบหนี อีก 1 ราย ได้แก่ นายศุภชัยฯ ผู้ต้องหาหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 407/2567 ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งตำรวจไซเบอร์ กก.1 บก.สอท.3 จะเร่งติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป
*********************************************
ขอบคุณที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร
กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี