ตร.ไซเบอร์จับบัญชีม้าแก๊งหลอกโอนเงินรวมหนี้ เผยโดนหลอกไปทำงานข้ามแดน สุดท้ายหอบเงินกลับบ้านแค่ 300
1 min readสืบเนื่องจากผู้เสียหายรายหนึ่งเป็นหนี้ แล้วต้องการบริหารจัดการหนี้ของตนเอง ต่อมาได้พบโฆษณาจากบัญชีเฟซบุ๊กแฟนเพจชื่อ “TTB Cash2go” อ้างเป็นธนาคารทหารไทยธนชาต รับแก้ปัญหาหนี้โดยรวมหนี้เป็นก้อนเดียว จึงเกิดความสนใจทักแชทไปพูดคุย
ต่อมาคนร้ายได้ให้แอดไลน์เพื่อพูดคุยกับฝ่ายสินเชื่อ แล้วได้เสนอโปรโมชันสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ โดยไม่ต้องเป็นลูกค้าธนาคาร ไม่ต้องเช็กเครดิตบูโร ไม่ต้องใช้ผู้ค้ำประกัน ลงทะเบียนทำคำขอกู้ผ่านเว็บไซต์แล้วอนุมัติทันที ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงกรอกข้อมูลส่วนตัวเพื่อสมัคร ต่อมาคนร้ายแจ้งว่า สินเชื่อได้ผ่านการอนุมัติแล้ว แต่ยังไม่สามารถอนเงินออกจากระบบได้ โอนเงินค่าธุรกรรมต่างๆ เพื่อใช้ในการกู้เงิน ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงโอนเงินไป
3 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 212,057 บาทถ้วน เมื่อคนร้ายได้รับเงินโอนเข้าแล้ว ก็ได้ตัดการติดต่อกับผู้เสียหายทันที ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความในเวลาต่อมา
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รรท.ผบช.สอท. จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รรท.ผบก.สอท.3
ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจออกสืบสวนกรณีดังกล่าว พ.ต.อ.มรกต แสงสระคู ผกก.2 บก.สอท.3 จึงได้ตรวจสอบในระบบแจ้งความออนไลน์ พบว่าคดีดังกล่าวมีความเชื่อมโยงไปยังคดีอื่นอีกหลายคดี จึงได้สั่งการให้
พ.ต.ท.ชัยวงศ์ ทองน้อย สว.ปรก.กก.2 บก.สอท.3 นำทีมสืบสวน จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐาน
ออกหมายจับผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้น จำนวน 7 หมายจับ
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม นายณัฐพงศ์ อายุ 24 ปี ชาวนครราชสีมา ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 4580/2567 ลง 19 ก.ย.67 ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใดยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หมายเลขโทรศัพท์” โดยควบคุมตัวได้ที่บ้านพักในพื้นที่ หมู่ที่ 7 ตลาดเมืองนครราชสีมา อ.เมืองนครราชสีมา จว.นครราชสีมา
โดยนายณัฐพงศ์ฯ เป็นผู้ต้องหาบัญชีม้า และบัญชีแถวสุดท้ายในการกดเงินออก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพบพยานหลักฐานว่า แก๊งมิจฉาชีพข้างต้น ได้ใช้บัญชีธนาคารของนายณัฐพงศ์ฯ ในการกดเงินผ่านตู้ ATM
โดยใช้ผู้ร่วมขบวนการไปกดเงินทุกยอดที่เข้ามาทุก 5 – 10 นาที จากข้อมูลพบว่า บัญชีธนาคารดังกล่าว มีการกดเงินออกจากตู้ ATM รวมกว่า 2 ล้านบาท
เบื้องต้น นายณัฐพงศ์ฯ ได้ยอมเปิดเผยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนเคยพบโฆษณาประกาศรับสมัครงานฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน อ้างว่ามีรายได้ดี จึงสมัครไปทำ จากนั้นได้ข้ามชายแดนผ่านช่องทางธรรมชาติ เมื่อเดินทางไปถึงกลับโดนขังอยู่ในห้อง มี รปภ. เฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง และถูกยึดโทรศัพท์รวมทั้งเอกสารส่วนตัวทุกอย่าง จากนั้นได้โดนบังคับให้เปิดบัญชีธนาคารแบบออนไลน์ เมื่อเวลาผ่านไป บัญชีธนาคารดังกล่าวได้โดนอายัด จึงส่งตัวกลับโดยไม่ได้รับเงินค่าทำงานตามที่สมัครไว้ตอนแรก ได้รับเพียงค่ารถแค่ 300 บาทในการเดินทางกลับ และสุดท้ายต้องกลับมาตกเป็นผู้ต้องหาที่ประเทศไทย