23 ธันวาคม 2024

หนังสื่อพิมพ์ อินไซด์โปลิคไทม์ – insidepolicetime.com

นังสื่อพิมพ์ อินไซด์โปลิคไทม์ – insidepolicetime.com

ตำรวจไซเบอร์ ร่วมสถานทูตนิวซีแลนด์ จับ 2 ผัวเมีย ปลอมวีซ่า หลอกคนไทยไปทำงาน

1 min read

ตามนโยบาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายเร่งด่วน 10 ข้อ โดยข้อที่ 9 ได้
กำหนดว่า รัฐบาลจะเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ในการรับมือกับอาชญากรรมออนไลน์อย่างรวดเร็ว เพื่อให้ความช่วยเหลือและเยียวยาเหยื่อได้อย่างทันท่วงที โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตรผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร.รรท.ผบช.สอท. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. สืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์อย่างเข้มข้น
วันเสาร์ที่ 7 ธ.ค. 2567 เวลา 09.30 น. ณ บริเวณชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ บช.สอท.
นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร รรท.ผบช.สอท., พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รอง ผบก.สอท.2
รรท.ผบก.สอท.3, คุณจัสติน แอลเวส ผู้จัดการด้านการตรวจสอบและวิเคราะห์ความเสี่ยง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ปรึกษา, คุณเบน ควินน์ เจ้าหน้าที่ประสานงานด้านการอพยพที่ผิดกฎหมาย สถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์
ประเทศไทยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองนิวซีแลนด์, คุณพิราภา ประเทืองสุข เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและวิเคราะห์
ความเสี่ยง สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองนิวซีแลนด์, นายสนธยา กาลาศรี ผู้อำนวยการกองทะเบียนจัดหางานกลาง
และคุ้มครองคนหางาน ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติ กรณีจับกุมผู้กระทำผิดหลอกทำวีซ่า
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.3 ได้รับข้อมูลจากสถานทูตนิวซีแลนด์ กรุงเทพมหานคร แผนกตรวจคน
เข้าเมือง กระทรวงธุรกิจ นวัตกรรม และการจ้างงาน ซึ่งปรากฏกลุ่มทุจริตวีซ่า ปลอมแปลงเอกสารเพื่อยื่นขอวีซ่า
ออนไลน์เดินทางเข้าประเทศนิวซีแลนด์ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รอง ผบก.สอท.2 รรท.ผบก.สอท.3 จึงสั่งการ
ให้ ทำการสืบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย
คดีนี้สืบเนื่องมาจากสถานฑูตนิวซีแลนด์ตรวจพบความผิดปกติของแรงงานไทยที่เดินทางเข้าไปทำงาน
ที่ประเทศนิวซีแลนด์ และจากเอกสารการขอวีซ่าเพื่อเข้าประเทศนิวซีแลนด์ พบว่า มีการยื่นเอกสาร
เพื่อขอทำวีซ่าปลอม จึงประสานมายังตำรวจไซเบอร์เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจทีมสืบสวน
นำโดย พ.ต.ท.ชัยวงศ์ ทองน้อย สว.ปรก. กก.2 บก.สอท.3 ได้สืบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน และศาลได้อนุมัติ
หมายจับจำนวน 3 ราย


กระทั่งวันที่ 6 ธ.ค.67 เวลา 07.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.3 นำโดย พ.ต.อ.มรกต แสงสระคู
ผกก.2 บก.สอท.3 ได้นำกำลังเข้าบุกค้นบ้านย่านประเสริฐมนูกิจ ที่เป็นแหล่งกบดานหลบหนีของคนร้าย สืบเนื่อง
จาก ผู้ต้องหาเคยกระทำความผิดในการหลอกลวงแรงงานมาแล้วหลายครั้ง มีความเชี่ยวชาญ และปิดตัวเองจาก
โลกออนไลน์ แม้กระทั่งบัตรประชาชนยังไม่เคยทำมาร่วมสิบปี จนกระทั่งจับผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ น.ส.จันทิมา
(สงวนนามสกุล) และนายอนุวัตน์ (สงวนนามสกุล) ตัวการในการหลอกทำวีซ่าไปทำงานประเทศนิวซีแลนด์
คนร้ายได้เรียนรู้จากประสบการณ์การไปทำงานที่เกาหลี จึงพบช่องทางว่ามีคนไทยสนใจไปทำงาน
ต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ยอมเสียเงิน กู้หนี้ยืมสิน เพื่อให้ได้งานไปทำงานต่างประเทศที่มีค่าจ้างแรงงานสูง
คนร้ายจึงเข้าไปศึกษาในกลุ่มหางานต่างประเทศและเริ่มหลอกลวงโดยเริ่มจากผู้ที่ต้องการหางานที่ประเทศเกาหลี ต่อมาเห็นว่าตลาดที่เกาหลีขาดความน่าสนใจ จึงพุ่งเป้ามาที่ประเทศนิวซีแลนด์ที่มีค่าจ้างแรงงานสูงกว่า
โดยการศึกษาหาข้อมูลจากทางโซเชียลจนสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับงาน ขั้นตอนต่างๆ ในการยื่นขอวีซ่าไปทำงานโดยคนร้ายได้ซื้อเพจเฟซบุ๊กที่มีคนติดตามจำนวนมากมาจากบุคคลอื่น และโพสต์ชักชวนไปทำงานที่
นิวซีแลนด์ และตั้งราคาให้น้อยกว่าเพจอื่นเพื่อดึงดูดความสนใจ เมื่อเหยื่อสนใจ คนร้ายจะทักเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้น และส่งต่อผู้เสียหายโดยอ้างว่าให้คุยกับเอเจนซี่ที่นำคนงานเข้าประเทศนิวซีแลนด์โดยตรง ที่ใช้ไลน์ชื่อ “วุฒิ”
ผู้เสียหายสนใจงานประเภทฟาร์มวัว ที่ประเทศนิวซีแลนด์ คนร้ายจึงได้ให้ผู้เสียหายส่งข้อมูลส่วนตัวไป เพื่อใช้
ประกอบการสมัครงาน ผู้เสียหายได้ส่งภาพถ่ายประวัติการทำงาน และหนังสือเดินทางไปให้ และแจ้งว่าจะส่ง
ข้อมูลดังกล่าวไปให้กับนายจ้าง โดยแจ้งรายละเอียดในการทำงานว่า ในการดำเนินการประสานงานกับนายจ้าง
และทำวีซ่าทำงาน มีค่าใช้จ่ายให้บริษัทเอเจนซี่ จำนวน 70,000 บาท แบ่งเป็นค่าดำเนินการเรื่องวีซ่าทำงาน
จำนวน 50,000 บาท ค่าครองชีพ (ค่าเสื้อผ้า , ค่าของใช้ส่วนตัว) จำนวน 20,000 บาท สัญญาทำงานกับนายจ้างปี ต่อปี ส่วนรายละเอียดค่าตอบแทนต้องไปตกลงกับนายจ้างที่ประเทศนิวซีแลนด์ หลังจากนั้นจะทำการพูดคุย
ทักทายกับเหยื่อเรื่อย ๆ และเปิดวีดีโอคอลให้เหยื่อเห็นหน้าเพื่อให้เหยื่อเชื่อโดยสนิทใจ และคนร้ายจะแจ้งว่า
สัญญาจ้างได้ถูกส่งมาจากประเทศนิวซีแลนด์แล้ว และคนร้ายจะทำการถ่ายรูปสัญญาจ้างที่ตนเองทำขึ้นเองส่งไลน์ ให้กับเหยื่อดู และจะแจ้งว่าห้ามส่งต่อข้อมูล หากข้อมูลมีการรั่วไหลจะดำเนินคดี เมื่อเหยื่อหลงเชื่อคนร้ายได้ให้ โอนเงินให้แบ่งเป็นรอบๆ เมื่อได้เงินและเหยื่อเริ่มสงสัยคนร้ายจะทำการปิดกั้นการติดต่อ


จากการปฏิบัติการในครั้งนี้สามารถจับกุมผู้ต้องได้ 2 ราย โดยดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกัน
ฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันปลอมเอกสาร ,ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่ง
ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่า ทั้งหมดหรือบางส่วน หรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดย
ประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือสามารถส่งไป
ฝึกงานในต่างประเทศได้ และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูก
หลอกลวง”


ทั้งนี้ หากมีผู้เสียหายที่ถูกขบวนการนี้หลอกลวงหรือถูกหลอกในลักษณะเดียวกัน กองบัญชาการ
ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้เสียหายมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือ
ติดต่อสถานีตำรวจใกล้บ้านท่านเพื่อดำเนินการกับกลุ่มผู้ต่องหาต่อไป กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวน
อาชญากรรมทางเทคโนโลยีจะดำเนินการปราบปรามการกระทำความผิดและอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอื่น ๆ
ที่ส่งผลกระทบต่อความเดือดร้อนของประชาชนคนไทยในทุกมิติ และปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่เป็นภัยร้ายแรงต่อสังคมไทย
*********************************************
ขอขอบคุณที่เผยแพร่ข่าวสาร
“ตำรวจไซเบอร์พึ่งพาได้ ลดภัยอาชญากรรมออนไลน์ สร้างความอุ่นใจให้ประชาชน”
กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You may have missed