ตำรวจไซเบอร์รวบวัยรุ่นบัญชีม้า แอบอ้างอาจารย์กวี หลอกลงทุนหุ้นทองคำสูญเงินกว่า 2.5 ล้านบาท
1 min read
สืบเนื่องจากผู้เสียหายได้พบโฆษณาบนแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับการให้ความรู้เรื่องการเทรดหุ้นทองคำ โดยแอบอ้างเป็นนักลงทุนชื่อดัง “อาจารย์กวี ชูกิจเกษม” พร้อมกับมีการชักชวนลงทุนผ่านลิงก์ที่แนบ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงกดลิงก์ และเชื่อมต่อไปยังบัญชีไลน์ชื่อ “กวี ชูกิจเกษม”
ต่อมาคนร้ายได้ใช้ไลน์ดังกล่าวให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการลงทุนเกี่ยวกับหุ้นและแนะนำข้อมูลหุ้นบางตัวพร้อมผลกำไรที่จะได้รับ ผู้เสียหายสนใจจึงถูกดึงเข้ากลุ่มไลน์ชื่อ “ศูนย์กลางความร่ำรวยและจัดเตรียมของขวัญสำหรับสมาชิกใหม่เป็นหนังสือรุ่นจำกัด” ต่อมาสมาชิกในกลุ่มซึ่งเป็นหน้าม้าได้ทำทีได้ส่งตารางพอร์ตหุ้นของผู้เสียหายที่ถืออยู่ให้คนร้ายที่อ้างตัวเป็น “กวี ชูกิจเกษม” เพื่อขอคำปรึกษา และคนร้ายยังได้ส่งหนังสือ
ของ “กวี ชูกิจเกษม” มาให้ที่บ้านของผู้เสียหายอีกด้วย
ขณะเดียวกันผู้เสียหายได้สนทนากับหน้าม้าอีกคน เรื่องการเทรดหุ้นและเรื่องทั่วไปเพื่อตีสนิท จากนั้นได้แนะนำให้รู้จักหน้าม้าอีกคนเพื่อสอนดาวน์โหลดแอปพลิเคชันปลอมชื่อ Meta Trader5 เพื่อในการเทรดและอธิบายขั้นตอนการใช้งานต่อมา และยังได้แนะนำให้คุยกับหน้าม้าอีกหลายคน เพื่อแนะนำเรื่องต่างๆ
ในการเทรด จนผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นการลงทุนที่น่าเชื่อถือจริง
ต่อมาผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปจำนวน 5 ครั้ง ตั้งแต่ครั้งละ 200,000 บาท จนถึง ครั้งละ 1,000,000 บาทรวมทั้งสิ้น 2,500,000 บาท สามารถทำกำไรได้ 4,800,000 บาท ไม่รวมเงินทุน ต่อมาผู้เสียหายได้เฉลียวใจ จึงลองถอนเงินตามขั้นตอนที่หน้าม้าเคยแนะนำ ปรากฏว่าไม่สามารถถอนเงินได้ จึงได้ติดต่อกับหน้าม้า แต่คนร้ายอ้างว่าเป็นการละเมิดกฎก่อนเวลาและติดช่วงวันหยุดสงกรานต์ ทำให้ไม่สามารถทำการถอนเงินได้ ให้รอ 2 วัน ต่อมาคนร้ายอ้างว่าให้โอนเงินค่าคอมมิชชั่น 10 % ของกำไรที่ผู้เสียหายเทรดได้ก่อน จึงสามารถถอนเงินออกได้ทั้งหมด ผู้เสียหายคิดว่าโดนหลอกลวงจึงเข้าแจ้งความในเวลาต่อมา
ตำรวจไซเบอร์ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการได้หลายราย ต่อมา พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รรท.ผบก.สอท.3 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนออกติดตามจับกุมผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว กระทั่ง พ.ต.ท.สมพร บุตรวงศ์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ได้นำกำลังชุดสืบสวนพร้อมหมายจับศาลอาญา ที่ 4230/2567 ลงวันที่ 2 ก.ย.67 เข้าจับกุม นายยุทธพงษ์ อายุ 20 ปี ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยคุมตัวได้ในพื้นที่หมู่ 1 ต.ตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว
เบื้องต้น นายยุทธพงษ์ฯ ให้การว่า ได้มีเพื่อนแนะนำว่ามีคนกำลังหาจ้างผู้รับเปิดบัญชีธนาคาร จึงได้เปิดบัญชีธนาคาร จำนวน 1 บัญชี และหลังจากนั้นได้ถูกพาไปทำงานยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อทำหน้าที่สแกนใบหน้าเพื่อถอนเงินออกจากบัญชีหลังจากที่มีเหยื่อโอนเงินเข้ามายังบัญชีตนเอง หลังจากทำงานได้เพียง 5 วัน บัญชีจึงถูกอายัด โดยตนเองพบว่า ช่วงเวลาดังกล่าวมียอดเงินถูกโอนเข้ามาในบัญชีตนเองจำนวนมาก เมื่อได้ค่าจ้างจำนวน 10,000 บาท แล้วจึงได้เดินทางกลับประเทศไทยและถูกตำรวจไซเบอร์จับกุมในที่สุด
