“รวบหนุ่มไรเดอร์หลงผิดรับจ๊อบค้ายาเสพติด ซุกบ้านหรูใจกลางเมือง”
1 min read
“รวบหนุ่มไรเดอร์หลงผิดรับจ๊อบค้ายาเสพติด ซุกบ้านหรูใจกลางเมือง”
เรียนผู้บังคับบัญชา
เจ้าหน้าตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดกองบังคับการตำรวจนครบาล 3
เรื่อง รายงานการจับกุมยาเสพติด
วันที่ 1 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 เวลาประมาณ 18.00 น.
สถานที่จับกุมผู้ถูกจับกุมที่ บริเวณซอยกาญจนาภิเษก01 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
ได้ร่วมกันจับกุม นายเอกลาภ หรือเพชร วิเศษจันทร์ อายุ 26 ปี จ.พระนครศรีอยุธยา (ผู้ถูกจับ)
โดยกล่าวหาว่า “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า/ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยผิดกฎหมาย อันเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป และจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประสาท 2 (คีตามีน) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยผิดกฎหมาย อันเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”
ของกลาง 1.ยาบ้าของกลาง จำนวน 20,200 เม็ด
2.ยาไอซ์ของกลาง น้ำหนักประมาณ 6.302 กรัม
3. คีตามีนน้ำหนักประมาณ 9 กิโลกรัม
พฤติการณ์และการกระทำของผู้ถูกจับ ก่อนทำการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับ
บริเวณบ้านเลขที่ 26/124 ซอย 6/1 หมู่บ้านกลางเมืองรามอินทรา ซอยกาญจนาภิเษก 01 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร มีวัยรุ่นมั่วสุมเสพยาเสพติด และลักลอบจำหน่ายยาเสพติด จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ เพื่อขออนุมัติหมายค้น ต่อมาศาลอาญามีนบุรีอนุมัติหมายค้น ที่ ค.63/2568 ลงวันที่ 1 กุมพาพันธ์ 2568 จึงได้วางแผนการจับกุมเพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ต่อมาวันที่ 1 กุมพาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 17.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม พร้อมหมายค้นศาลอาญามีนบุรี ที่ ค.63/2568 ลงวันที่ 1 กุมพาพันธ์ 2568 ได้นำกำลัง ไปตรวจสอบที่บริเวณบ้านเลขที่ 26/124 ซอย 6/1 หมู่บ้านกลางเมืองรามอินทรา ซอยกาญจนาภิเษก01 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร เมื่อไปถึงพบว่าประตูรั่วบ้านเปิดอยู่ แต่ประตูบ้านปิดอยู่ จึงได้กดกริ่งหน้าบ้านเรียกบุคคลภายในบ้าน ต่อมานายเอกลาภ หรือเพชร วิเศษจันทร์ (ทราบชื่อสกุลจริงภายหลัง) เดินออกมาเปิดประตูบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แสดงหมายค้นฯ และแสดงบัตรปปส. พร้อมแจ้งวัตถุประสงค์เพื่อขอทำการตรวจค้นให้ทราบ และแสดงความบริสุทธิ์จนเป็นที่พอใจแก่ผู้ต้องหาแล้ว โดยพ.ต.ท.ประกอบ สอนจันดา มอบหมายให้ ส.ต.อ.มานพ ศรีโยธา เป็นผู้ตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบโทรศัพท์มือถือ (ของกลางรายการที่ 7) ถืออยู่ขณะทำการตรวจค้น จึงได้ตรวจสอบข้อมูลโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหา พบการติดต่อซื้อขายยาเสพติด ด้วยความสมัครใจของผู้ต้องหา จึงได้สมัครใจนำพาเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นภายในบ้านหลังดังกล่าว พบเครื่องชั่งดิจิตอล(ของกลางรายการที่ 4) และสมุดรายการการเบิกจ่ายยาเสพติด(ของกลางรายการที่ 5) อยู่ภายในห้องพักของผู้ต้องหา โดยผู้ต้องหานำตรวจยึด และรับอีกว่ามียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์ของตนเองที่จอดอยู่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว จึงได้นำพาเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นภายในรถยนต์ พบยาเสพติด (ของกลางรายการที่ 1,2,3) และของกลางรายการที่ 6 ซุกซ่อนอยู่กระสอบสีรุ้ง วางอยู่ภายในรถยนต์ (ของกลางรายการที่ 8) โดยผู้ต้องหานำตรวจยึด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำยาเสพติดของกลาง ออกมาเพื่อตรวจนับที่บริเวณภายในบ้านหลังดังกล่าว สอบถามผู้ต้องหาให้การรับว่ายาเสพติด ของกลางดังกล่าวอยู่ในความครอบครองของต้องหาจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งสิทธิตามกฎหมาย และแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับทราบ นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางมาที่ กก.สส.บก.น.3 ผู้ต้องหามีลักษณะคล้ายผู้เสพยาเสพติด
จึงได้ปัสสาวะของผู้ต้องหา ด้วยความสมัครใจของผู้ต้องหา ด้วยชุดตรวจหาสารเสพติดของ ป.ป.ส. เบื้องต้นไม่พบสารเสพติดในร่างกายแต่อย่าใด และได้นำยาเสพติดของกลางมาตรวจพิสูจน์กับน้ำยามาร์คควิด ผลการตรวจเป็นเมทแอมเฟตามีน และคีตามีนจริง ผู้ต้องหาได้ให้ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดต่อเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมไว้แล้ว แต่ไม่สามารถจับกุมบุคคลดังกล่าวได้ จึงนำตัวผู้ถูกจับพร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ประสานงาน พ.ต.ท.ประกอบ สอนจันดา โทร094-359-6419