กรมศุลกากร ปล่อยเรือตรวจการณ์ “ศุลกากร 1202” ลงน้ำ
1 min readนายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เป็นประธานในพิธีปล่อยเรือตรวจการณ์
ทางทะเล “ศุลกากร 1202” ลงน้ำ โดยมีนางกิจจาลักษณ์ ศรีนุชศาสตร์ รองอธิบดีกรมศุลกากร เป็นสุภาพสตรีผู้ประกอบพิธีปล่อยเรือลงน้ำตามประเพณีโบราณ ณ อู่ต่อเรือบริษัท มาร์ซัน จำกัด (มหาชน) อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
วันนี้ 30 มิถุนายน 2566 เวลา 14.00 น. นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เป็นประธานในพิธีปล่อยเรือตรวจการณ์ทางทะเล “ศุลกากร 1202” ลงน้ำ พร้อมด้วย
นายชูชัย อุดมโภชน์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร นายพงศ์เทพ บัวทรัพย์ รองอธิบดี รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร นายถวัลย์ รอดจิตต์ ผู้อำนวยการกองสืบสวนและปราบปราม นายวิศณุ วัชราวนิช เลขานุการกรม พร้อมคณะผู้บริหารกรมศุลกากร และนายภัทรวิน จงวิศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาร์ซัน จำกัด (มหาชน) และคณะผู้บริหารจากบริษัท มาร์ซัน จำกัด (มหาชน) โดยมีนางกิจจาลักษณ์ ศรีนุชศาสตร์
รองอธิบดีกรมศุลกากร เป็นสุภาพสตรีผู้ประกอบพิธีปล่อยเรือลงน้ำตามประเพณีโบราณ ณ อู่ต่อเรือบริษัท มาร์ซัน จำกัด (มหาชน) อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร
กล่าวว่า กรมศุลกากรตระหนักถึงความสำคัญของการปกป้องชายแดนและผลประโยชน์ของชาติทางทะเล อีกทั้งยังเล็งเห็นถึงภัยคุกคามความมั่นคงของชาติในอนาคตที่เกิดจากการลักลอบเคลื่อนย้ายสินค้าที่อาจเป็นอันตรายต่อสังคมเข้ามาในประเทศ ตลอดจนใช้ประเทศไทยเป็นต้นทางและทางผ่านซึ่งสินค้าเหล่านี้ กรมศุลกากร
จึงดำเนินการต่อเรือตรวจการณ์ทางทะเล “ศุลกากร 1202”
เพื่อทดแทนเรือที่ปลดประจำการ ขนาดความยาว 120 ฟุต ความกว้างกลางลำ 24.93 ฟุต กินน้ำลึกตัวเรือ 4.59 ฟุต ความคงทนทางทะเลระดับ 5 ออกแบบและต่อสร้างโดยบริษัท มาร์ซัน จำกัด (มหาชน) เป็นจำนวนเงิน 234,865,000.00บาท (สองร้อยสามสิบสี่ล้านแปดแสนหกหมื่นห้าพันบาทถ้วน) ประกอบพิธี
วางกระดูกงูเรือ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 และได้ดำเนินการต่อสร้างเรือเรื่อยมา
เป็นลำดับจนกระทั่งเสร็จสิ้นสมบูรณ์
อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวต่ออีกว่า เรือตรวจการณ์ทางทะเล “ศุลกากร 1202”
ลำนี้ ถูกต่อขึ้นด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง เป็นเรือที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดลำหนึ่งในกองเรือศุลกากร และจะนำไปใช้ในภารกิจป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายศุลกากร
การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ตลอดจนการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติทางทะเล ต่อไป