16 มีนาคม 2025

หนังสื่อพิมพ์ อินไซด์โปลิคไทม์ – insidepolicetime.com

นังสื่อพิมพ์ อินไซด์โปลิคไทม์ – insidepolicetime.com

บุกรวบเรือจ้างผีน้อยเกาหลีใต้ 8 รายคาไวท์บอร์ด! ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสั่งการเข้ม ตม. สนธิกำลัง กรมการจัดหางาน ตรวจโรงเรียนสอนภาษาชื่อดังกลางกรุง

1 min read

พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดยกระดับการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม โดยเฉพาะความผิดที่เกี่ยวกับคนเข้าเมืองและชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบหลักของ สตม. โดยสั่งการและกำชับให้เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบบังคับใช้กฎหมาย โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่รับผิดชอบงานสืบสวนเน้นลงพื้นที่ X-RAY ตรวจสอบป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รองผู้บังคับการฯ รับผิดชอบงานตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้ร่วมสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่จากกรมการจัดหางาน ภายใต้การอำนวยการของ นายสนธยา กาลาศรี ผู้อำนวยการกองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน ปูพรมตรวจสอบโรงเรียนสอนภาษาเกาหลีชื่อดังแห่งหนึ่ง รวม 2 จุด ตั้งอยู่ที่บริเวณถนนรัชดาภิเษก และอีกจุดหนึ่งบริเวณศูนย์การค้าย่านบางนา โดยได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ และ พ.ต.ท.พรชัย สุขเจริญ รองผู้กำกับการสืบสวนฯ พร้อมชุดปฏิบัตินำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สังกัด กก.สืบสวน บก.ตม.1 และเจ้าพนักงานกองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางานนับสิบนาย ลงพื้นที่ตรวจสอบ


เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวและแสดงบัตรประจำตัวขอตรวจสอบการจ้างคนต่างด้าวทำงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจพบสถานที่ลักษณะเป็นห้องกระจกย่อยๆ หลายห้อง ภายในห้องเรียนมีการจัดโต๊ะ เก้าอี้ มีอุปกรณ์สื่อการเรียน การสอน เช่น หนังสือภาษาเกาหลี แบบฝึกหัดสำหรับให้นักเรียนทำ กระดานสีขาว (ไวท์บอร์ด ) สำหรับผู้สอนใช้เขียนขณะสอน เครื่องรับโทรทัศน์ ติดตั้งอยู่บริเวณมุมห้องด้านหน้าชั้นเรียน สำหรับแสดงสื่อการเรียน และพบแผ่นพับโฆษณาโรงเรียนแสดงคอร์สการเรียน คิดอัตราค่าเรียนตามคอร์สประเภทต่างๆ หลายราคา มีนักเรียนคนไทยกำลังเรียนภาษาโดยมีครูเกาหลีใต้ทำหน้าที่สอน จึงได้บันทึกภาพถ่ายเป็นหลักฐานก่อนตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินทาง ของครูสอนภาษาที่พบในสถานที่เกิดเหตุทั้งหมด ผลการตรวจสอบพบครูสัญชาติเกาหลีใต้ถึง 8 ราย เป็นชาย 6 ราย หญิง 2 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวซึ่งได้รับการผ่อนผัน ให้เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรได้ 90 วันโดยมิต้องขอรับการตรวจลงตรา (FREE VISA) แต่บางรายอยู่ในราชอาณาจักรโดยอาศัยเหตุผลเนื่องจากมีภรรยาเป็นคนไทย จากการสอบถามและตรวจสอบจากฐานข้อมูลกรมการจัดหางาน ทั้ง 8 รายไม่มีใบอนุญาตทำงาน


จากการสอบสวนปากคำเบื้องต้นทั้งหมดให้การว่า พวกตนเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยถูกต้องตามกฎหมาย ต่อมาได้เข้ามารับจ้างทำงานที่โรงเรียนสอนภาษาแห่งนี้ ซึ่งมีคนไทยคือนางสาววิภา (นามสมมติ) เป็นเจ้าของโรงเรียนและเป็นนายจ้าง โดยได้ว่าจ้างชาวเกาหลีใต้ทั้ง 8 ราย ให้ทำหน้าที่เป็นครูสอนภาษาเกาหลีให้กับนักเรียนที่สมัครเข้าเรียนเป็นรายชั่วโมง ทั้งแบบออนไลน์และ ณ ที่ตั้ง โดยผู้ถูกจับรายที่ทำงานมานานที่สุด ทำงานสอนภาษาเกาหลีมาเป็นเวลามากกว่า 1 ปี ทั้งนี้ผู้ถูกจับส่วนใหญ่ จะได้รับเงินค่าจ้างสอนออนไลน์ได้ค่าจ้างรายชั่วโมงละ 200 บาท หากเป็นการสอน ณ ที่เรียน จะได้ค่าจ้างชั่วโมงละ 350 บาท และได้รับค่าจ้างทั้งในรูปแบบเงินสดและการโอนเข้าบัญชี จากนางสาววิภาฯ ซึ่งเป็นนายจ้าง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับชาวเกาหลีใต้ทั้ง 8 รายทราบว่า “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และแก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561 และแจ้งข้อกล่าวหานางสาววิภาฯ ในฐานะนายจ้าง ในข้อหา


“รับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และแก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561 จากนั้นควบคุมตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวกล่าวสอบถาม พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1 ซึ่งได้กรุณาให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากเบาะแสสำคัญของพี่น้องประชาชนที่เป็นหูเป็นตา และเป็นความร่วมมือในการปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็งระหว่างสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน นอกจากนี้ยังขอฝากประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชนผ่านผู้สื่อข่าวว่า การกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว เป็นความผิดตามกฎหมาย และเป็นสิ่งที่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตระหนักและกวดขันจับกุมอย่างต่อเนื่องและเต็มกำลังความสามารถ ดังที่ปรากฏในสื่อกระแสหลักและช่องทางอื่นๆ เสมอมา หากพี่น้องประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแส การกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองโดยตรง หรือที่ หมายเลข 1178 จักขอบพระคุณยิ่ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You may have missed