ตำรวจไซเบอร์จับกุมเสี่ยเมืองคอน ขายหวยใต้ดินออนไลน์ พร้อมรวบแก๊งหลอกลงทุนทางคอมพิวเตอร์
1 min readตามนโยบาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน และ “นโยบายรัฐบาลในการจัดการปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติยุค Digital Disruption” แก่ข้าราชการตำรวจระดับผู้บริหารทั่วประเทศ ในโครงการสัมมนาผู้บริหาร ระดับผู้บัญชาการหรือเทียบเท่า และผู้บังคับการหรือเทียบเท่า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดย
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช.
ในฐานะ ผอ.ศปอส./ผอ.ศตคม.ตร. ได้ขับเคลื่อนนโยบายผ่าน พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะผู้รับผิดชอบควบคุมสั่งการ บช.สอท. และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ
รอง ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว
วันพฤหัสบดีที่ 3 เม.ย.68 เวลา 13.30 น. ณ บริเวณชั้น 1 บก.สอท.2 นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ ผบก.สอท.2 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์จับกุมเสี่ยเมืองคอน ขายหวยใต้ดินออนไลน์ พร้อมรวบแก๊งหลอกลงทุนทางคอมพิวเตอร์
สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดร่วมกันเร่งปราบปรามการกระทำผิดทางอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนนำมาสู่ผลการปฏิบัติดังนี้
1. จับกุมเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 1 ราย
– เครือข่ายหวยใต้ดิน จำนวน 1 ราย
2. จับกุมเครือข่ายหลอกลวงออนไลน์ จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 3 ราย
– เครือข่ายหลอกลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ เสียหาย 1.4 ล้านจำนวน 1 ราย
– เครือข่ายรวบเครือข่ายหลอกให้กู้เงินออนไลน์ จำนวน 1 ราย
– รวบเครือข่ายหลอกลงทุนหุ้นออนไลน์ปลอม เสียหาย 2.4 ล้านจำนวน 1 ราย
จับกุมเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ หวยออนไลน์
ปฏิบัติการที่ 1 : กก.3 บก.สอท.5 รวบเสี่ยเมืองคอน ขายหวยใต้ดินออนไลน์
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.5 จึงได้สืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดบนสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก ประกอบกับพบว่า นายรัตนชัยหรือมอสฯ มีพฤติการณ์เป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ขายสลากกินรวบ (หวยใต้ดิน) ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.5 จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้นศาลแขวง
ทุ่งสง เพื่อเข้าค้นในพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 2 จุดสำคัญ
ต่อมาวันที่ 1 เม.ย.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.5 ได้นำลังเข้าตรวจค้นในพื้นที่ อ.ทุ่งสง และ อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช เข้าตรวจสอบเป้าหมายที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 9 ต.วังหิน อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช สามารถจับกุมตัวนายรัตนชัยหรือมอสฯ อายุ 51 ปี พร้อมของกลางประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Realme รุ่น Note50 และสมุดบัญชีสีน้ำเงินสำหรับจดหวย จำนวน 1 เล่ม
จากการสอบถามนายรัตนชัยหรือมอสฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และรับว่าตนได้ส่งหวยต่อไปยังเจ้ามือรายใหญ่ในพื้นที่ทุ่งสง ซึ่งเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในพื้นที่ทุ่งสงและพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.5 จะได้สืบสวนเชิงลึกเพิ่มเติมเพื่อขยายผลจับกุมผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องต่อไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา “จัดให้มีการเล่น (เจ้ามือรับกินรับใช้) หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนัน (หวยออนไลน์) ในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานหรือรับอนุญาตแล้วแต่เล่นพลิกแพลงหรือผู้ใดเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นอันขัดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎกระทรวง หรือข้อความในใบอนุญาต”
จับกุมเครือข่ายหลอกลวงออนไลน์
ปฏิบัติการที่ 2 : กก.3 บก.สอท.1 รวบเครือข่ายหลอกลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ เสียหาย 1.4 ล้าน
สืบเนื่องจากผู้เสียหายถูกหลอกให้ร่วมลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ รวมเป็นเงิน 1,485,600 บาท แต่ไม่เคยได้รับเงิน เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ต้องหาได้หลายราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถ จับกุมตัว นายธารา อายุ 43 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 4941/2567 ลงวันที่ 8 ตุลาคม 2567 ในความผิดฐาน“ร่วมกัน, ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และฟอกเงิน” เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การยอมรับว่าเป็นเจ้าของบัญชีแต่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการหลอกลวงแต่อย่างใด
ปฏิบัติการที่ 3 : กก.3 บก.สอท.1 รวบเครือข่ายหลอกให้กู้เงินออนไลน์
สืบเนื่องจากกลุ่มคนร้ายได้ส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือมาให้ผู้เสียหาย โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการกู้เงินออนไลน์ ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงได้ติดต่อกับกลุ่มคนร้าย ต่อมากลุ่มคนร้ายได้ใช้กลอุบายให้ผู้เสียหายโอนเงินให้คนร้ายเพื่อเป็นค่าธรรมเนียมในการกู้เงิน แต่เมื่อผู้เสียหายโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของกลุ่มคนร้ายแล้ว ก็ไม่สามารถกู้เงินได้ จึงเชื่อว่าถูกหลอก ผู้เสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีตามกฎหมายจนคดีถึงที่สุด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.1 นำหมานจับศาลอาญา ที่ 1102/2567 ลงวันที่ 14 มี.ค.67 เข้าจับกุมตัวนายสมบูรณ์ อายุ 37 ปี ชาวจ.สุรินทร์ ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน”
ปฏิบัติการที่ 4 : กก.4 บก.สอท.3 รวบเครือข่ายหลอกลงทุนหุ้นออนไลน์ปลอม เสียหาย 2.4 ล้าน
สืบเนื่องจากผู้เสียหายสนใจลงทุนซื้อขายหุ้น จึงสอบถามข้อมูลจากเพจ SD Trading บน Facebook
ได้มีคนร้ายได้ติดต่อมา แอบอ้างเป็นบริษัท Penfold ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ UBS Co, ltd เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้นให้ผู้เสียหายดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน PENFOLD ปลอม อ้างว่าได้หุ้นมาในราคาถูกกว่าตลาด และมีผลกำไรสูง ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินลงทุนไปทั้งสิ้นรวมทั้งสิ้น 2,460,500 บาท แต่สุดท้ายไม่สามารถถอนเงินได้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับผู้ต้องหาในเครือข่ายได้สำเร็จ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สอท.3 นำกำลังเข้าจับกุม น.ส.สุจารีรย์ อายุ 33 ปี ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันข้อมูลบิดเบือน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน,ปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก” โดยควบคุมตัวได้ที่บ้านพักในพื้นที่ หมู่ 7 ต.ห้วยหิน อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
*********************************************
ขอขอบคุณที่เผยแพร่ข่าวสาร
กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี