ตำรวจไซเบอร์รวบเพิ่ม 2 ผู้ร่วมขบวนการเว็บพนันรายใหญ่ เงินหมุน 2,400 ล้านต่อปี พร้อมจับกุมเครือข่ายเงินกู้นอกระบบ
1 min read
ตามนโยบาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน และ “นโยบายรัฐบาลในการจัดการปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติยุค Digital Disruption” แก่ข้าราชการตำรวจระดับผู้บริหารทั่วประเทศ ในโครงการสัมมนาผู้บริหารระดับผู้บัญชาการหรือเทียบเท่า และผู้บังคับการหรือเทียบเท่า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดย พล.ต.อ.
กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. ในฐานะผอ.ศปปง.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส./ผอ.ศตคม.ตร. และ พล.ต.ท.อิทธิพลอัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท.
นำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว
วันจันทร์ที่ 28 เม.ย.68 เวลา 13.00 น. ณ บริเวณชั้น 1 บก.สอท.2 นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท.,พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2, พล.ต.ต.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ ผบก.สอท.4 และพล.ต.ต.ศุภกร ผิวอ่อน ผบก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์รวบเพิ่ม 2 ผู้ร่วม
ขบวนการเว็บพนันรายใหญ่ เงินหมุน 2,400 ล้านต่อปี พร้อมจับกุมเครือข่ายเงินกู้นอกระบบ
สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดเร่งปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนนำมาสู่ผลการปฏิบัติดังนี้
1. จับกุมเครือข่ายการพนันออนไลน์ จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 2 ราย
– เครือข่ายเว็บพนันรายใหญ่ ok2d.com เงินหมุนกว่า 2,400 ล้านต่อปี จำนวน 2 ราย
2. จับกุมเครือข่ายเงินกู้นอกระบบ จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 2 ราย
– รวบเจ้าแม่เงินกู้ดอกลอยสุราษฎร์ ดอกเบี้ยร้อยละ 1,200 ต่อปี จำนวน 1 ราย
– รวบคนทวงหนี้ เครือข่ายหนี้นอกระบบ ดอกเบี้ยโหด จำนวน 1 ราย
จับกุมเครือข่ายการพนันออนไลน์
ปฏิบัติการที่ 1 : กก.4 บก.สอท.4 รวบเพิ่ม 2 ราย เครือข่ายเว็บพนันรายใหญ่ ok2d.com เงินหมุนกว่า 2,400 ล้านต่อปี สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 เม.ย.68 ที่ผ่านมา ตำรวจไซเบอร์ได้จัดแถลงผลการจับกุมเครือข่ายเว็บพนันรายใหญ่ ok2d.com เงินหมุนกว่า 2,400 ล้านต่อปี โดยตรวจค้น 2 จุด ในพื้นที่ จ.เชียงราย และ จ.ภูเก็ต สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 ราย และยึดทรัพย์เพิ่มได้กว่า 215 ล้านบาท
ต่อมาเมื่อวันที่ 26 เม.ย.68 พ.ต.อ.คมสัน มีภักดี ผกก.4 บก.สอท.4 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สอท.4 ได้ทำการขยายผล และขอหมายจับเพิ่มเติม จนสามารถจับกุม น.ส.นิโลบล อายุ 27 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.720/2568 และ น.ส.ชนิดาภา อายุ 22 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.721/2568 ในความผิดฐาน “ร่วมกันจัดให้มีการเล่นหรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดย
ทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน, สมคบโดย ตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่
ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันกระทำความผิดฐานฟอกเงิน” โดยจับกุมตัวได้ที่ สถานีบริการน้ำมัน ปตท.แม่กรณ์ ต.ท่าสาย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย
โดยผู้ต้องหาทั้งสองราย เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่ให้ผู้คนฝากเงินเข้าและโอนเงินให้กับผู้ที่ถอนเงิน จากการเล่นการพนันออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ ok2d ที่มีเงินหมุนเวียนกว่า 2,400 ล้านต่อปี ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่ยังหลบหนี และตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อยึดและอายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิดทั้งมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปจับกุมเครือข่ายเงินกู้นอกระบบ
ปฏิบัติการที่ 2 : กก.3 บก.สอท.5 รวบเจ้าแม่เงินกู้ดอกลอยสุราษฎร์ ดอกเบี้ยร้อยละ 1,200 ต่อปี สืบเนื่องจากสายตรวจไซเบอร์ของ กก.3 บก.สอท.5 ได้ทำการลาดตระเวนในสื่อโซเชียลมีเดีย พบว่าบัญชีเฟซบุ๊ก “เงินทุนหมุนเวียน พ่อค้าแม่ค้า” ประกอบธุรกิจสินเชื่อเงินกู้นอกระบบ ปล่อยเงินกู้ดอกลอยรายวัน
ชี้ชวนให้ประชาชนทั่วไปกู้เงิน จึงทำการตรวจสอบและแสวงหาพยานหลักฐานเพื่อเสนอต่อศาลขออนุมัติเข้าทำการตรวจค้น
ต่อมาในวันที่ 26 มี.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.5 ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ ค.66/2568 ลง 25 เม.ย.68 มาทำการตรวจค้นบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บางใบไม้ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี พบ น.ส.ประภัสสร อายุ 32 ปี จึงได้ขอทำการตรวจค้น โดยพบ ipad 1 เครื่องวางอยู่บนเตียงนอนจากการสอบถาม น.ส.ประภัสสร ยอมรับว่า ipad เป็นของตนเองและได้ใช้งานจริงแต่เพียงผู้เดียว พบมีการเข้าใช้งานเฟซบุ๊ก ชื่อบัญชี “เงินทุนหมุนเวียน พ่อค้าแม่ค้า” ซึ่ง น.ส.ประภัสสรเป็นแอดมินกลุ่ม พบการสนทนา
รายละเอียดการปล่อยเงินกู้ดอกลอยรายวัน โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ปล่อยเงินกู้ให้ลูกหนี้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นและชาวบ้านในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยคิดดอกลอยรายวัน กู้เงินต้นจำนวน1,000 บาท จะต้องจ่ายเงินดอกเบี้ยวันละ 60 บาท จนกว่าคืนเงินต้น และแบบเงินต้นจำนวน 10,000 บาทจะต้องผ่อนชำระ 1,000 ต่อวัน ทั้งหมด 15 วัน คิดเป็นร้อยละ 3.33 บาทต่อวัน หรือ ร้อยละ 100 ต่อเดือนร้อยละ 1,216.66 ต่อปี โดยเกินกว่าร้อยละ 15/ปี เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท. 5 จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ทำการจับกุม/ตรวจยึดอุปกรณ์ ควบคุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อ
ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถาม น.ส.ประภัสสร ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และรับว่าตนเป็นประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลเงินกู้นอกระบบ ปล่อยกู้ดอกลอยรายวัน โดยไม่ได้รับอนุญาตผ่านเฟซบุ๊ก ชื่อบัญชี “เงินทุนหมุนเวียน พ่อค้าแม่ค้า” จริง โดยทำมาประมาณ 2 ปี โดยนำเงินทุนมาปล่อยกู้ลูกค้าในกลุ่มจากนายทุนเงินกู้ดอกลอยอีกทอดนึง
ปฏิบัติการที่ 3 : กก.3 บก.สอท.2 รวบคนทวงหนี้ เครือข่ายหนี้นอกระบบ ดอกเบี้ยโหด
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ได้รับการร้องเรียนจากผู้เดือดร้อนจากการทวงหนี้นอกระบบ ในพื้นที่อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม จึงได้ทำการสืบสวนจนมีข้อมูลว่ามีกลุ่มขบวนการปล่อยเงินกู้นอกระบบผ่านสื่อออนไลน์และจะส่งคนมาเก็บเงินกู้ตามวันเวลาวงรอบที่กำหนดไว้หากลูกหนี้คนไหนไม่ชำระหนี้ตามกำหนดก็จะถูกข่มขู่คุกคาม เมื่อทราบช่วงวันเวลาที่กลุ่มบุคคลดังกล่าวออกมาเก็บเงินกู้และทวงหนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ ซุ่มรอเฝ้าสังเกต
ต่อมาขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์เฝ้าสังเกตในพื้นที่ ม.1 ต.ดอนแฝก จ.นครปฐม พบนายธีรศักดิ์ อายุ 26 ปี
ซึ่งเป็นคนทวงหนี้นอกระบบตามข้อมูลที่ทำการสืบสวนมา กำลังเก็บเงินและปล่อยเงินกู้ให้กับชาวบ้าน จึงได้จับกุมตัว ในข้อกล่าวหา “ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ใด้รับอนุญาต และให้ผู้อื่น กู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด”
จากการตรวจค้น พบข้อมูลการปล่อยเงินกู้ในโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยมีโพยรายชื่อลูกหนี้ ยอดเงินที่กู้ ข้อมูลแชทสนทนาทวงหนี้ โดยนายธีรศักดิ์ฯ รับว่าตนได้ปล่อยเงินกู้ให้กับชาวบ้านทั่วไปจริง และกำลังมาทวงถามเก็บเงินกู้กับลูกหนี้ จึงได้พาตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.นครชัยศรี อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เพื่อ
ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการ เพื่อนำตัวมา
ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
*********************************************
ขอขอบคุณที่เผยแพร่ข่าวสาร
กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
