3 มิถุนายน 2025

หนังสื่อพิมพ์ อินไซด์โปลิคไทม์ – insidepolicetime.com

นังสื่อพิมพ์ อินไซด์โปลิคไทม์ – insidepolicetime.com

ตำรวจไซเบอร์ล่องใต้กวาดล้างอาชญากรแดนสองเล ตรวจค้น 5 จุดในสงขลา รวบผู้ต้องหา 7 ราย ทั้งเครือข่ายอาวุธปืน เงินกู้นอกระบบ ของหนีภาษี หวยเถื่อน และโจรออนไลน์

1 min read

ตามนโยบาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน และ “นโยบายรัฐบาลในการจัดการปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติยุค Digital Disruption” แก่ข้าราชการตำรวจระดับผู้บริหารทั่วประเทศ ในโครงการสัมมนาผู้บริหาร ระดับผู้บัญชาการหรือเทียบเท่า และผู้บังคับการหรือเทียบเท่า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศปปง.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส./ผอ.ศตคม.ตร. และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส.ตร.
ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว

วันพฤหัสบดีที่ 22 พ.ค.68 เวลา 14.00 น. ที่ทำการ กก.2 บก.สอท.5 ซอยออมทรัพย์ 10 ม.6 ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ
รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาย์ รอง ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.ศุภกร ผิวอ่อน ผบก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์ล่องใต้กวาดล้างอาชญากรแดนสองเล ตรวจค้น 5 จุดในสงขลา รวบผู้ต้องหา 7 ราย ทั้งเครือข่ายอาวุธปืน เงินกู้นอกระบบ ของหนีภาษี หวยเถื่อน และโจรออนไลน์

สืบเนื่องจาก กรณีเมื่อวันที่ 11 พ.ค.68 เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนใจในสังคมไทย เมื่อ “สจ.กอล์ฟ” หรือ
นายสิรดนัย สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เขต 7 บุตรชายของ ส.ส. สังกัดพรรคดัง ได้ถูกกล่าวหาว่า
สั่งการให้ลูกน้อง 6 คน รุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต คงเทพ เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 ขณะปฏิบัติหน้าที่
รักษาความปลอดภัยในหน่วยเลือกตั้งที่ 7 ต.พะวง อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา โดยมีสาเหตุจากความไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ห้ามถ่ายภาพภายในหน่วยเลือกตั้ง ขณะ”สจ.กอล์ฟ” ไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนเสียง จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม
ถึงเรื่องอิทธิพลในพื้นที่ที่ครอบคลุมทั้งการเมืองและธุรกิจท้องถิ่น

ต่อมา พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ บก.สอท.5 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ ได้ออกสืบสวน
ทั้งออนไลน์และออนกราวน์ โดยให้สายตรวจไซเบอร์ลาดตระเวนในสื่อโซเชียลมีเดีย และส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ลงพื้นที่สืบสวนเพื่อจับกุมการกระทำผิดในพื้นที่ เพื่อกวาดล้างอาชญากรรมที่อาจสนับสนุนอิทธิพลผิดกฎหมายในพื้นที่ จ.สงขลา จนนำมาสู่การเปิดปฏิบัติการตรวจค้นจับกุม จำนวน 5 จุด สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ จำนวน 7 ราย
โดยมีรายละเอียดดังนี้

จุดที่ 1 บริเวณบ้านเช่าในพื้นที่ ม.3 ต.ม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา (จับกุมอาวุธปืน จำนวน 2 ราย)

สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สอท.5 ได้สืบสวนพบเบาะแสการกระทำผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนผิดกฎหมาย
ทางออนไลน์ ซึ่งพบหลักฐานเชื่อมโยงไปยังนายฉัตรชัย ซึ่งน่าเชื่อว่าบุคคลดังกล่าวจะมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผิดกฎหมายไว้ในครอบครอง โดยได้เช่าบ้านอยู่ในพื้นที่ อ.สิงหนคร จ.สงขลา จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายค้นได้สำเร็จ

ต่อมา พ.ต.ท.คมสัน สมอ่อน สว.กก.4 บก.สอท.5 ได้นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดสงขลาที่ 218/2568 ลง16 พ.ค.68 เข้าตรวจค้นบ้านเช่าหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.3 ต.ม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าวและเรียกให้คนที่อยู่ภายในบ้านออกมาแสดงตัว ต่อมา นายฉัตรชัย อายุ 25 ปี ที่อยู่ภายในบ้านได้ออกมาแสดงตัว ในขณะเดียวกัน ได้มีชายวัยรุ่นวิ่งออกจากทางประตูด้านหลังบ้านเพื่อพยายามหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปิดล้อมอยู่
จึงเข้าตะครุบตัวได้สำเร็จ ทราบชื่อภายหลัง คือ นายบาดาวี อายุ 18 ปี โดยในมือได้ถืออาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 ม.ม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 9 นัด บรรจุอยู่ในแมกกาซีน สอบถามเจ้าตัวยอมรับว่าอาวุธปืน และกระสุนปืนดังกล่าวเป็นของตนจริง

ส่วนการตรวจค้นภายในบ้าน ผลการตรวจค้น พบอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม.ไม่มีทะเบียน จำนวน 1 กระบอก
พร้อมกระสุนปืนขนาด 9 มม. ถูกนำไปซุกซ่อนในห้องน้ำ โดยวางไว้ในกะละมังที่มีน้ำเติมอยู่ครึ่งกะละมัง
โดยอาวุธปืนดังกล่าวถูกแช่น้ำไว้ ลักษณะคล้ายรีบร้อนนำไปซุกซ่อนอย่างเร่งด่วน และยังพบกระสุนปืนอยู่ภายในห้องนอนของนายฉัตรชัยอีก จำนวน 17 นัด จากการสอบถาม เจ้าตัวรับว่าของกลางทั้งหมดเป็นของตนจริง โดยซื้อ
มาเมื่อช่วงต้นเดือน เม.ย.2568 จากนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่รายหนึ่ง ในราคา 50,000 บาท

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุม นายฉัตรชัย อายุ 25 ปี ในข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 7” และจับกุมนายบาดาวี อายุ 18 ปี ในข้อหา “มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนสมควรแก่กรณี” นำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งขยายผลไปยังแหล่งที่มาของอาวุธปืนดังกล่าวและบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จุดที่ 2 บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ม.3 ต.เขารูปช้าง อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา (จับกุมอาวุธปืน จำนวน 1 ราย)

สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สอท.5 ได้สืบสวนพบเบาะแสการกระทำผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนผิดกฎหมาย
ทางออนไลน์ ซึ่งพบหลักฐานเชื่อมโยงไปยังนายไพรัตน์ อายุ 22 ปี ซึ่งน่าเชื่อว่าบุคคลดังกล่าวจะมีอาวุธปืนและ
เครื่องกระสุนปืนผิดกฎหมายไว้ในครอบครอง ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่าบุคคลดังกล่าวพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังหนี่ง
ในพื้นที่ อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายค้นได้สำเร็จ

ต่อมา พ.ต.ท.คมสัน สมอ่อน สว.กก.4 บก.สอท.5 ได้นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดสงขลาที่ 216 /2568 ลง 16 พ.ค.68 เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.3 ต.เขารูปช้าง อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา เมื่อไปถึง พบนายไพรัตน์ อายุ 22 ปี
อยู่ภายในบ้าน

ผลการตรวจค้น พบอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. ไม่มีทะเบียน จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนขนาด 9 มม.
จำนวน 13 นัด อยู่ภายในห้องนอนของนายไพรัตน์ โดยอาวุธปืนดังกล่าวเป็นอาวุธปืนที่สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการยิงเป็นแบบ Full Auto ได้ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นอาวุธที่มีความอันตรายอย่างยิ่ง เบื้องต้น เจ้าตัวยอมรับว่าของกลางทั้งหมดเป็นของตนเองจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา มีซึ่งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนนอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา 55 ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งขยายผลไปยังแหล่งที่มาของอาวุธปืนดังกล่าวและบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จุดที่ 3 บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.3 ต.เขารูปช้าง อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา(จับกุมสินค้าหนีภาษี จำนวน 1 ราย)

สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สอท.5 ได้สืบสวนพบเบาะแสการกระทำผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนผิดกฎหมาย
ทางออนไลน์ ซึ่งพบหลักฐานเชื่อมโยงไปยังบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.3 ต.เขารูปช้าง อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายค้นได้สำเร็จ

ต่อมา พ.ต.ท.คมสัน สมอ่อน สว.กก.4 บก.สอท.5 ได้นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดสงขลาที่ 217/2568 ลง 16 พ.ค.68 เข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว เมื่อไปถึงพบเป็นบ้านเช่าห้องแถวที่ปลูกเรียงติดกัน จํานวน 4 คูหา พบนายกุลเดช
อายุ 28 ปี อยู่ภายในบ้าน จากการตรวจค้นพบ ไม่พบอาวุธปืนผิดกฎหมาย แต่กลับตรวจพบ บุหรี่ต่างประเทศยี่ห้อ John Black ไม่มีอากรแสตมป์ จํานวน90 ซอง, ยาแก้ไอยี่ห้อ คาทิสชิน จํานวน 25 ขวด และ ยาแก้ไอยี่ห้อ อาซาคอก จํานวน 20 ขวด เบื้องต้นเจ้าตัวยอมรับว่าของกลางที่ตรวจยึดได้เป็นของตนเองจริง

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับไปโดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีศุลกากรโดยถูกต้อง” และมียาแผนปัจจุบันไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำส่งดำเนินคดีตามกฎหมายพร้อมเร่งสืบสวนขยายผลไปยังบุคคลผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป

จุดที่ 4 บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.11 ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา (จับกุมเงินกู้นอกระบบ จำนวน 1 ราย)

สืบเนื่องจาก กก.2 บก.สอท.5 ได้สืบสวนพบบัญชีเฟซบุ๊กชื่อ ชื่อออออ ทราย มีพฤติการณ์เป็นปล่อยเงินกู้สินเชื่อนอกระบบผ่านเฟซบุ๊ก โดยพบว่าหากลูกหนี้ไม่จ่ายตรงตามที่ตกลงกันไว้ มักโดนโพสต์ประจาด่าทออย่างเสียหาย
จนโดนเอารัดเอาเปรียบและสร้างความเดือร้อนให้แก่ประชาชนในพื้นที่ จ.สงขลาเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายค้นได้สำเร็จ

ต่อมา พ.ต.ท.ทวีป จันทายนะ สว.กก.2 บก.สอท.5 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมหมายค้นศาลจังหวัดสงขลา
ที่ ค.213/2568 ลง 15 พ..68 เข้าดำเนินการตรวจค้น บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.11 ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
เมื่อเดินทางไปถึง พบ นาวอทิตยา อายุ 26 ปี แสดงตนเป็นผู้ครอบครองบ้าน

ผลการตรวจค้น พบโทรศัพท์มือถือของนางสาวอทิตยา จากการตรวจสอบข้อมูลภายในอุปกรณ์ดังกล่าว พบหลักฐานข้อมูลการกระทำความผิดเกี่ยวกับการปล่อยกู้สินเชื่อนอกระบบในโทรศัพท์มือถือของ น.ส.อทิตยาฯ

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา “ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยการจัดหามาซึ่งเงินทุนแล้วให้ผู้อื่นกู้ยืมโดยไม่ได้รับอนุญาต และ “ให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ควบคุมตัวส่งดำเนินคดี
ตามกฎหมายต่อไป

จุดที่ 5 บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.2 ถ.สนามบิน-ลพบุรีราเมศวร์ ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา (จับกุมหวยใต้ดินออนไลน์)

สืบเนื่องจาก กก.2 บก.สอท.5 ได้สืบสวนพบกลุ่มไลน์ที่มีการกระทำผิดเกี่ยวกับการพนันหวยสัตว์และหวยใต้ดินออนไลน์ โดยพบหลักฐานว่าเจ้ามือคือนางสาวกาญจนา อายุ 37 ปี โดยใช้ชื่อไลน์ (แอดมินจ๊ะเอ๋) แบ่งเป็นห้องไลน์เป็น 2 กลุ่ม ห้องที่ 1 มีลูกค้าประมาณ 43 คน และห้องที่ 2 มีลูกค้าประมาณ 19 คน มีเงินหมุนเวียนรวมกว่า 3,096,000 บาท
จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายค้นได้สำเร็จ

ต่อมา พ.ต.ท.พงศธร เมษสุวรรณกุล สว.กก.2 บก.สอท.5 ได้นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลแขวงสงขลา ที่ ค.42/2568
ลงวันที่ 15 ..68 เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.2 ถ.สนามบิน-ลพบุรีราเมศวร์ ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พบนางสาวกาญจนา อายุ 37 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของ

ผลการตรวจค้น พบโทรศัพท์มือถือของ นางสาวกาญจนา ตรวจสอบข้อมูลภายในเครื่อง พบหลักฐานการเป็นเจ้ามือหวยใต้ดินดังกล่าว จึงได้แจ้งข้อหา “จัดให้มีการเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต โฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรง หรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันสลากกินรวบ (หวยใต้ดิน) โดยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ นำตัวส่งดำเนินคดี
ตามกฎหมายต่อไป

จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับร่วมกันฉ้อโกงประชาชน จำนวน 1 ราย

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.5 ได้ออกติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาคดีหลอกลวงออนไลน์ในพื้นที่ จ.สงขลา ได้อีก 1 ราย โดยสามารถประสาน น.ส.ณัฐธิดา อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดบึงกาฬ ที่ 49/2568 ลง 18 ก.พ.68 ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อ น.ส.ณัฐธิดา ซึ่งเจ้าตัวอยากขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดจับกุมจึงนัดหมาย
รับมอบตัวที่ สภ.เมืองสงขลา ถ.แหลมทราย .บ่อยาง อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา เมื่อถึงเวลานัดหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงหมายจับพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ โดยเจ้าตัวอ้างว่าตนเองเคยรับจ้างเปิดบัญชีม้า แต่จำรายละเอียดไม่ได้แล้ว จึงควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน บก.สอท.3 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไ

*********************************************

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You may have missed