นักปั่นสาวทีมชาติไทยสู้สุดหัวใจในศึกจักรยานทางไกลรายการ “แองแยง เทเลวิชั่น คัพ 2023” ที่เวียดนาม
1 min readเจอการจัดแข่งขันที่ไม่ได้มาตรฐานของเจ้าภาพ ไม่มีป้ายบอกระยะทางและซุ้มเส้นชัย มีเพียงเทปกาวแปะบนพื้นถนน ทำให้ “กมลรดา ขาวปลอด” พลาดโอกาสในการสปรินท์จนพ่ายนักปั่นเจ้าถิ่นไปอย่างน่าเสียดาย ได้เพียงอันดับที่ 6 ในสเตจที่ 4 ขณะที่นักปั่นทีมชายซึ่งลงชิงชัยในรายการ “ทัวร์ ออฟ ชิงไห่ เลค 2023” ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ต้องปั่นขึ้นภูเขาซึ่งมีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า 3,500 เมตร ซึ่งนักปั่นไทยไม่มีความเคยชินจึงทำเวลาออกมาไม่ดีเท่าที่ควร โดย “สราวุฒิ สิริรณชัย” ทำผลงานได้ดีที่สุด และมีเวลารวมรั้งอันดับ 41 ร่วมกับนักปั่นฟิลิปปินส์และจีนอีก 2 คน
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก “โค้ชตั้ม” วิสุทธิ์ กสิยะพัท หัวหน้าผู้ฝึกสอนจักรยานถนนทีมชาติไทย ถึงการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติรายการ “ทัวร์ ออฟ ชิงไห่ เลค 2023” ที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 9-16 กรกฎาคม ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับ 2.PRO มีคะแนนสะสมโอลิมปิกเกมส์ 2024 สูงมาก ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม เป็นการแข่งขันสเตจที่ 2 ระยะทาง 132.35 กิโลเมตร มีนักปั่นลงชิงชัยทั้งหมด 151 คน
พลเอกเดชา กล่าวว่า การแข่งขันในสเตจที่ 2 นี้ เนื่องจากต้องปั่นขึ้นเขาเกือบตลอดเส้นทาง โดยเริ่มต้นไต่เขาที่มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,230 เมตร และจุดสูงสุดที่ยอดเขามีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 3,530 เมตร ทำให้นักปั่นแตกออกเป็น 4 กลุ่ม แชมป์ประจำสเตจตกเป็นของ นิลส์ ซินเช็ค นักปั่นเนเธอร์แลนด์ จากทีมเอบล็อก ทีซี เวลา 3.08.24 ชั่วโมง ส่วนนักปั่นทีมชาติไทยที่ทำผลงานดีที่สุดคือ ส.ท.สราวุฒิ สิริรณชัย ได้อันดับที่ 42 และ พ.อ.อ.พีระพล ชาวเชียงขวาง ได้อันดับที่ 44 เวลา 3.13.30 ชั่วโมงเท่ากัน
ขณะที่นักปั่นคนอื่น ๆ ร.ต.ท.นวุติ ลี้พงษ์อยู่ ได้อันดับที่ 87 และ นายรัชชานนท์ เยาวรัตน์ ได้อันดับที่ 88 เวลา 3.20.54 ชั่วโมง ด้านผู้นำเวลารวมเป็นของ นิลส์ ซินเช็ค นักปั่นเนเธอร์แลนด์ เวลารวม5.23.12 ชั่วโมง ได้สวมเสื้อเหลือง ขณะที่ พ.อ.อ.พีระพล ชาวเชียงขวาง รั้งอันดับ 41 ร่วมกับนักปั่นฟิลิปปินส์ และจีนอีก 2 คน ตามหลังผู้นำ 5.28 นาที
พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า ในสเตจที่ 2 นี้ นักปั่นไทยประสบคือต้องปั่นไต่ภูเขาที่มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลมากกว่า 3,500 เมตร และสภาพอากาศมีออกซิเจนที่เบาบาง ทำให้นักปั่นไทยไม่มีความเคยชิน มีอาการเหนื่อยง่ายกว่าปกติ ขนาดนักปั่นที่เป็นตัวขึ้นภูเขาดีที่สุดอย่าง ส.ต.ธนาคาร ไชยยาสมบัติ ยังยอมรับว่าเป็นการปั่นที่เหนื่อยมาก นักปั่นไทยจึงทำเวลาออกมาไม่ดีเท่าที่ควร สำหรับการแข่งขันสเตจที่ 3 ในวันที่ 11 กรกฎาคม ระยะทาง 201.12 กิโลเมตร ซึ่งเป็นการปั่นขึ้นภูเขาที่มีความสูงกว่าสเตจที่ 2 และมีภูเขาหลายลูกต่อเนื่องกัน ภูเขาลูกที่สูงที่สุดมีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 3,761 เมตร ดังนั้น “โค้ชตั้ม” ได้วางแผนให้นักปั่นปั่นแบบประคองตัวเพื่อให้เข้าเส้นชัยครบทุกคน
พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ก็ได้รับรายงานจาก ร.ต.อ.อัครัช ผ่องบุรุษ ผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ถึงการแข่งขันจักรยานทางไกลสตรีรายการ “แองแยง เทเลวิชั่น คัพ 2023” ที่ประเทศเวียดนาม ซึ่งแข่งขันระหว่างวันที่ 7-15 กรกฎาคม ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม เป็นการแข่งขันสเตจที่ 4 ระยะทาง 114 กิโลเมตร ผลปรากฏว่า นักปั่นสาวไทยยังทำผลงานได้น่าพอใจ แม้จะแข่งขันท่ามกลางนักปั่นเวียดนามเกือบ 50 คน และประสบปัญหาการจัดที่ไม่ได้มาตรฐานของเจ้าภาพที่ไม่มีการติดตั้งป้ายบอกระยะทางแต่ละช่วงการแข่งขัน โดยเฉพาะก่อนเข้าเส้ยชัยจะต้องมีการบอกระยะทาง 1 กิโลเมตรสุดท้าย ตามมาด้วยระยะ 500 เมตร, 300 เมตร, 200 เมตร, 150 เมตร, 100 เมตร และ 50 เมตรตามลำดับ
นายกสองล้อไทย กล่าวต่อไปว่า ที่สำคัญคือการแข่งขันในสเตจนี้ไม่มีซุ้มเส้นชัย มีเพียงเทปกาวสีขาวแปะบนพื้นถนน และใช้ทางม้าลายเป็นจุดเข้าเส้นชัย ซึ่งนักปั่นไทยไม่มีความคุ้นเคย ทำให้ “ตาล” น.ส.กมลรดา ขาวปลอด ที่ออกมามาในช่วงแรกพลาดโอกาสในการสปรินท์จนพ่ายนักปั่นเจ้าถิ่นไปอย่างน่าเสียดาย โดย กมลรดา ได้อันดับที่ 6, ส่วน น.ส.อภิชยา หันทยุง ได้อันดับ 9, น.ส.รุ่งนภา กุศล ได้อันดับ 11, น.ส.ณัฐชา สงเคน ได้อันดับ 13, น.ส.ปัณฑิตา ชิตมาตย์ ได้อันดับ 24 ขณะที่แชมป์ประจำสเตจเป็นของ ตรัน ธิ ทุย ตรัง นักปั่นเวียดนาม โดยทำเวลา 3.04.22 ชั่วโมงเท่ากัน ขณะที่ผู้นำเวลารวม เป็นของ เหงียน ทิ ทิ นักปั่นเวียดนาม เวลา 11.05.26 ชั่วโมง โดยกมลรดา รั้งอันดับ 7 เวลา 11.06.38 ชั่วโมง ตามหลังผู้นำ 1.12 นาที
“ส่วนแชมป์ประเภททีมประจำสเตจที่ 4 แชมป์ตกเป็นของทีมวินาม่า ทีพี. โฮจิหมินห์ เวลา 9.13.06 ชั่วโมง พร้อมทั้งขึ้นนำเวลารวมประเภททีมด้วยเวลา 33.19.04 ชั่วโมง โดยทีมชาติไทยได้อันดับที่ 2 ประจำสเตจที่ 4 เวลา 9.13.06 ชั่วโมงเท่ากัน แต่เวลารวมอยู่อันดับ 5 ตามหลังทีมนำอยู่ 7.20 นาที อย่างไรก็ตาม ขอให้พี่น้องชาวไทยร่วมส่งกำลังใจไปเชียร์นักปั่นไทยทั้ง 2 ชุด นักกีฬาทุกคนสู้อย่างสุดหัวใจแน่นอน และจะทำผลงานให้ดีที่สุด เพื่อชื่อเสียงของประเทศไทย” พลเอกเดชา กล่าว.