ผู้ประกาศ ตำรวจรวบเครือข่ายแอป ’กู้ให้ดีดี’ คิดดอกเบี้ยโหด พร้อมจับกุมเครือข่ายรับจำนำรถ “เสี่ยไอซ์” พบเงินหมุนเวียนหลายร้อยล้านบาท
1 min readเทป พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงผล การปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปน.ตร.) โดยได้รับแจ้งจากผู้เสียหายที่กู้ยืมเงินนอกระบบดอกเบี้ยสูงจึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเครือข่ายผู้กระทำความผิด โดย ศปน.ตร.ชุดที่ 1 ได้รวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับแอปพลิเคชั่นเงินให้กู้ผิดกฎหมาย ชื่อ “กู้ให้ดีดี” มีระยะเวลาการกู้เงิน7วัน โดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 40 และต้องชำระคืนเต็มจำนวน หากไม่สามารถชำระจะถูกโทรศัพท์ข่มขู่ และโพสต์ภาพประจานในโซเชียลมีเดีย จากการตรวจสอบพบว่าเครือข่ายดังกล่าวมีเส้นทางการเงิน 3 กลุ่มคือ 1.กลุ่มบัญชีโอนเงินให้ผู้กู้ ใช้บัญชีม้าในการโอนเงินเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ 2.กลุ่มเจ้าของบัญชีสำหรับรับโอนชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ย และ 3.กลุ่มเจ้าของบัญชีสำหรับพัก ยักย้าย หรือรวบรวมทรัพย์สิน เชื่อว่าเป็นกลุ่มบัญชีนายทุนเงินกู้ และผู้รับผลประโยชน์จากดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งเครือข่ายดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนประมาณ 160 ล้านบาท จึงได้ขออนุมัติศาลจังหวัดสมุทรปราการ ออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวน 14 ราย ในข้อหาร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินอันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงิน โดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด /และร่วมกันเป็นผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต
พร้อมได้ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 9 จุดในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานครนนทบุรี และเชียงราย สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ทั้งหมด 9 ราย หลบหนี 5 ราย เจ้าหน้าที่นำตัวส่งพนักงานสวบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
นอกจากนี้ ชุด ศปน.ตร. ชุดที่ 2 ยังได้จับกุมเครือข่ายรับจำนำรถของเสี่ยไอซ์ ซึ่งสามารถหลบหนีไปได้ โดยเครือข่ายดังกล่าว มีเงินหมุนเวียนประมาณ 100 ล้านบาทโดยได้จับกุมนายณัฐพงษ์ หรือโจ้ อายุ 36 ปี ในบ้านพักในพื้นที่อำเภอบางละมุงจังหวัดชลบุรี ขยายผลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีก 2 ราย คือ นาย
กฤตภาส และ นายฐณะวัฒน์ หรือ เสี่ยไอซ์
พร้อมปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 14 จุด ในพื้นที่ 4 จังหวัด คือ ชลบุรี ระยอง พิษณุโลก และกาญจนบุรี สามารถจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลได้อีก 7 ราย
ตรวจยึดของกลาง อาทิรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สมุดบัญชีเงินฝาก อาวุธปืนอีกกว่า 80 รายการ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ร่วมกัน ปล่อยเงินกู้และเรียกรับดอกเบี้ยเกินกว่ากฏหมายกำหนด และร่วมกันฟอกงิน
ทั้งนี้ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ กล่าวถึงปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นการปราบปรามแก๊งกลุ่มเงินกู้นอกระบบผิดกฎหมาย และตัดวงจรกลุ่มบัญชีม้า รวมถึงแก๊งรับจำนำรถ ซึ่งเป็นต้นทางของหนี้นอกระบบและการก่ออาชญากรรมในหลากหลายรูปแบบ ทั้งยังพบว่าคนร้ายได้แปลงเงินให้เป็นเงินสกุลดิจิทัล เพื่อให้ยากต่อการติดตาม โดยหลังจากนี้จะสืบสวนขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง และปราบปรามกลุ่มผู้กระทำผิดกฎหมายเหล่านี้ นำมาดำเนินคดี ต่อไป
ส่งจาก iPhone ของฉัน