ตำรวจท่องเที่ยวปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นระดมกวาดล้างอาชญากรรมและ การกระทำความผิดต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
1 min readเมื่อ วัน 26-27 เมษายน 2566
ตามนโยบายด้านการท่องเที่ยวที่ส่งเสริมให้ชาวต่างชาติกลับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยหลังจาก
สถานการณ์ โควิด 19 มีทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบันมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทำให้ปัญหา
และอาชญากรรมในวงจรการท่องเที่ยวมีมากขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ ยังอาจมีกรณีที่อาชญากรต่างชาติฉวย
โอกาสแฝงตัวเข้ามาในรูปแบบนักท่องเที่ยวเพื่อหลบหนีคดีหรือก่ออาชญากรรมในประเทศ
เพื่อเป็นการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและรักษาไว้ซึ่งความปลอดภัยในวงจรการท่องเที่ยว สร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว โดย พล.ต.ท.สุคุณ พรหมมายน ผบช.ทท.. พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง
รอง ผบช.(สส.1) ควบคุมการปฏิบัติและสั่งการให้ กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1-3, กองกำกับการควบคุมธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก็ สถานีตำรวจท่องเหี่ยวและงานสืบสวนในสังกัด บก.ทท. 1-3 บูรณาการการทำงาน
กับหน่วยงานในพื้นที่ ระดมกวาดล้างอาชญากรรมการกระทำความผิดต่างๆ โดยเฉพาะในฐานความผิด
10 กลุ่มต้องห้าม, กรณีชาวต่างชาติที่เข้ามาพักอาศัย เกินกำหนด (Overstay) และความผิดอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบ
ต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภาพรวม ระหว่างวันที่ 26-27 เม.ย.66 โดยมีผลการปฏิบัติ
จับกุม -ทัวร์ด้อยคุณภาพ/พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ 54 ราย
-ยานพาหนะ เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว 21 ราย
-สถานบริการผิดกฎหมาย 4 ราย
-จัดระเบียบการจราจร (ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ) 25 ราย
-ยาเสพติดในแหล่งท่องเที่ยว 26 ราย 25 คน
-อาชญากรรมข้ามชาติและลักลอบหลบหนีเข้าเมือง 76 ราย 82 คน
-คดีอาชญากรรมที่สำคัญและส่งผลกระทบกับนักท่องเที่ยว 32 ราย
-ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล มาเฟีย พกพาอาวุธบริเวณสถานที่ท่องเที่ยว 8 ราย
-กรณีชาวต่างชาติ ที่เข้ามาพักอาศัยเกินกำหนด (Overstay) 7 ราย
สรุปผลการปฏิบัติ
จับกุม 253 ราย ผู้ต้องหา 258 คน จับเอง 157 ราย ร่วมจับ 96 ราย