“๑๙๑ ทลายคลังยาเสพติดย่านลำพยา นครปฐม” ตามนโยบายของรัฐบาลให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐปราบปรามกลุ่มเครือข่ายยาเสพติต เนื่องจากเป็น ภัยคุกคามที่ร้ายแรง และเป็นดันเหตุของการเกิดอาชญากรรมในสังคม อันจะส่งผลกระทบต่อประชาชน และสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
1 min read
โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิดติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ด.อ.ชินภัทร สารสิน, พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.
ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งรัด กวดขัน สืบสวน ปราบปราม
จับกุม ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดทุกข้อหา มุ่งเน้นข้อหาความผิดร้ายแรง ได้แก่ การครอบครองยาเสพ
ติดเพื่อการค้า จำหน่าย ผลิต นำเข้า ส่งออก สมคบ สนับสนุน ช่วยเหลือแก่กลุ่มเครือข่ายยาเสพติด
กองบัญชาการตำรวจนครโดย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบข.น., พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง, พล.ต.ต.
โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.น, พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบข.น. และ พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียน
ขาว รอง ผบช.น. กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ โดย พล.ต.ต.กานพ วรธนัขซากุล ผบก.สปพ..
พต.อ.ประสงค์ อานมณี, พ.ต.อ.ชัยกฤต โพธิ์อ๊ะ, พ.ต.อ.ทิวา โสภาเจริญ, พ.ต. อ.โรจนินทร์ ทองใบ,
พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล, พ.ต.อ.วรศักดิ์ สิชฐบรรณการ และ พต.อ.เด่นหล้า รัดนกิจ รอง ผบก.สปพ.
กองกำกับการสายตรวจ โดย พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจ, พ.ต.ท.โชติช่วง รัศมี,
พ.ต.ท.คงศักดิ์ ศรีโหร , พ.ต.ท.อธิบดี เสริมสุข และ พ.ต.ท.วสุเทพ ใจอินทร์ รอง ผกก.สายตรวจ ,
พ.ต.ท.ไพบูลย์ สอโส สว.งานสายตรวจ ๑, พ.ต.ต.เชษฐพร บัวจันทร์ สว.งานสายตรวจ ๒ และ พ.ต. ต.
พุฒิพัฒน์ โกยมวงษ์เจริญ สว.งานสายตรวจ
ตร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายยาเสพติด
วันเวลาจับกุม/ตรวจยึด
วันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๖๖ เวลา ๑๙.๐๐ น.
สถานที่จับกุม/ตรวจยึด
บริเวณบ้านเลขที่ ๒0/๑๕ หมู่ ๕ ซอยลำพยา – บอสโก ๒ ตำบลโพรงมะเดื่อ อำเภอเมือง
จังหวัดนครปฐม
จับกุมผู้ต้องหา จำนวน ๔ ราย
๑. นายชลิต หรือตั้ม (สงวนนามสกุล)
๒. นายอภิซาต หรือแมน (สงวนนามสกุล)
๓. นายจรัญ หรือบึก (สงวนนามสกุล)
อายุ ๓๙ ปี
ผู้ต้องหาที่ ๑
๔. นายวัชระ หรือฟ้าลั่น (สงวนนามสกุล)
อายุ ๓า๘ ปี
ผู้ต้องหาที่ ๒
อายุ ๓๘ ปี
ผู้ต้องหาที่ ๓
อายุ ๓๖ ปี
ผู้ต้องหาที่ ๔
แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า,ไอซ์,เฮโรอีน,
อบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีวัถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท ๒ (ไฟว์ไฟว์
ไฟว์) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
จำนวน ๑๕,๑๙๐,๐๐๐ เม็ด
พร้อมด้วยของกลาง
ยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า)
จำนวน ๔๒๐ กิโลกรัม
๒. ยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ไอซ์)
จำนวน ๔๔๓ แท่ง
ลา. ยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เฮโรอีน)
ยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (แฮปปี้วอเทอร์/มีส่วนผสมของยาอี)
จำนวน ๓ กระสอบ
วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท ๒ (ไฟว์ไฟว์ หรือ อิริมินไฟว์)
จำนวน ๔ กระสอบ
จำนวน ๙ คัน
รถยนต์
๗. โทรศัพท์มือถือ
จำนวน ๙ เครื่อง
พฤติการณ์กล่าวคือ
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ๑๙๑ สืบสวนขยายผลสืบสวนเครือข่ายยาเสพติดจากผลจับกุมที่ผ่านมา จน
ทราบว่ากลุ่มนายอภิชาติ กับพวก จำนวน ๓ คน มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติด โดยใช้รถยนต์
จำนวนหลายคัน ใช้งานสลับสับเปลี่ยน ตระเวนส่งยาเสพติดให้กับลูกค้าบริเวณ ถ.บรมราชชนนี และ
พื้นที่พุทธมณฑลสาย ๕ จึงเฝ้าสืบสวนติดตามเรื่อยมาจนทราบว่กลุ่มผู้ต้องหาได้เซ่าบ้านไว้เป็นที่เก็บ
ชุกซ่อนยาเสพติดที่ บ้านเลขที่ ๒0 /๑๕ ถนนลำพยา-หมู่ ๕ ตำบลลำหญา อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม
จนกระทั่งตามวันเวลาที่จับกุม พบผู้ต้องหาหาทั้ง ๔ คน มีพฤติกรรมเชื่อว่าน่าจะกำลังนำยาเสพ
ติดไปส่งให้กับลูกค้าในช่วงเวลาหัวค่ำ ตามที่ได้สืบสวนทราบมา
จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจคัน ผล
การตรวจคันพบยาเสพติดของกลางทั้งหมดซุกซ่อน อยู่ภายในบ้านเลขที่ ๒0/๑๕ หมู่ ๕ ตำบลลำพญา
อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม จำนวนมาก ผู้ต้องหาทั้งสี่รับสารภาพว่าได้เช่าบ้านดังกล้าวไว้เป็นที่เก็บซุก
ซ่อนยาเสพติด แล้วไปรับยาเสพติดมาเก็บชุกซ่อนไว้ เพื่อทยอยลักลอบส่งยาเสพติดให้กับกลุ่มผู้ค้าใน
พื้นที่ปริมณฑล จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหามาทำการซักถามและขยายผลถึงผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยยาเสพ
ติดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ๑๕ถ ครวจยึดได้ในครั้งนี้ แากน้ำไปจำหน่าและมีมูลค่สูงถึง ๓.. ล้านบาท
หากประชาชนท่านใด พบเห็น หรือมีเบาะแส เกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับการจำหน่าย
ยาเสทติดหรือสิ่งขอผิดกฎหมาย หรือพบการมั่วสุม สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ กองบังคับการสายตรวจ
และปฏิบัติการพิเศษ หรือโทรศัพท์สายด่วน ๑๙ด
ที่มา : กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (๑๙๓)
