พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ รอง ผบ.ตร. พร้อม นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล รุดลุยย่างกุ้ง หารือเอกอัครราชทูตไทยเพื่อช่วยคนไทยกลับประเทศ
1 min read
วันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2566 เวลาประมาณ 11.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.(มค) ในฐานะ ผอ.ศพดส.ตร. ที่รับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ พร้อมด้วย นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล และ พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทท. พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผบก.สอท.4 รรท.รอง จตร. พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์ รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ทรงเอก พัชรวิชญ์ รอง ผบก.ตท. พ.ต.อ.พงศ์ธร พงศ์รัชตนันทน์ ผกก.ตม.สงขลา ซึ่งล้วนเป็นชุดปฏิบัติการ ศพดส.ตร. และผู้แทน DSI เข้าร่วมประชุมหารือกับ นายมงคล วิศิษฎ์สตัมภ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ณ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เพื่อช่วยเหลือคนไทยที่เป็นเหยื่อค้ามนุษย์ ถูกหลอกมาทำงานที่เมืองเล้าก์ก่าย รัฐฉาน ประเทศเมียนมา
สืบเนื่องจากที่มีสถานการณ์การสู้รบต่อเนื่องระหว่างรัฐบาลทหารพม่ากับกลุ่มต่อต้านในทางเหนือของรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ซึ่งกลุ่มต่อต้านได้ทำการยึดเมืองต่าง ๆ ไว้ได้จำนวน 5 เมือง ซึ่งประชิดเมืองเล้าก์ก่าย ทำให้คนไทยที่ตกเป็นเหยื่อ ถูกหลอกมาทำงานได้รับความเดือดร้อน และต้องการกลับประเทศ ซึ่งรวมทั้งคนจีนกว่า 600 คน และคนชาติอื่น ๆ ด้วย ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วนสำคัญที่ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ได้กำชับให้ทางการไทย เร่งรัดช่วยเหลือคนไทยกลับประเทศ ซึ่ง ผบ.ตร. ก็ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ เดินทางมาดำเนินการด้วยตนเอง ซึ่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมกับทีมไทยแลนด์ ณ กรุงย่างกุ้ง ประกอบด้วยทีมกระทรวงการต่างประเทศ และผู้ช่วยทูตทหาร ตำรวจ มีความพร้อมในการปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทย แต่เนื่องจากสถานการณ์สู้รบต่อเนื่อง ทำให้การเดินทางไปยังเมืองเล้าก์ก่าย มีความอันตรายและยากลำบาก โดยขณะนี้พบคนไทยที่อยู่ในความดูแลของทหารพม่าแล้ว 162 คน และยังอยู่ในตึกที่ยังไม่สามารถช่วยเหลือออกมาได้อีกประมาณ 60 คน ซึ่งทางการไทย มีความต้องการช่วยเหลือให้ออกมาทั้งหมดในคราวเดียวกัน และต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพื่อความปลอดภัยของคนไทยทุกคน โดยแผนการปฏิบัติการต่อไป คือ การส่งเจ้าหน้าที่ไทย ทั้งกงสุลไทย และเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย ชุดปฏิบัติการ ศพดส.ตร. เดินทางไปยังเมืองเล้าก์ก่าย เพื่อตรวจสอบสถานะคนไทยทั้งหมด เตรียมการให้กรอกข้อมูลเบื้องต้น เพื่อจะได้เตรียมการกลไกส่งต่อระดับชาติ หรือ NRM เมื่อคนไทยทั้งหมดเดินทางมาถึงเมืองไทย ซึ่งเบื้องต้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ ได้ประสานกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และปลัดกระทรวงมหาดไทย ในการจัดเตรียมสถานที่ไว้เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งประสานหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงสาธารณสุข เพื่อตรวจร่างกายคนไทยทั้งหมด
โดยหลังจากที่ได้ตรวจสอบสถานะคนไทยทั้งหมดแล้ว ทางการไทยจะเดินทางไปตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือที่เมืองคุนหมิง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยจะอพยพคนไทยออกทางชายแดนเข้าสู่ประเทศจีน เพื่อจะได้ดำเนินการส่งกลับประเทศไทยต่อไป ซึ่งทางการไทยมีความพร้อมทุกฝ่าย แต่ประเด็นสำคัญคือการประสานการปฏิบัติกับทางการพม่า ที่ต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยของประชาชนและเจ้าหน้าที่เป็นอย่างสูง
สุดท้าย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ ย้ำว่า ความสำคัญลำดับแรก คือ การช่วยเหลือคนไทยกลับประเทศให้เร็วที่สุด และเมื่อถึงประเทศไทยแล้ว ก็จะดำเนินการกระบวนการ NRM เพื่อคัดแยกเหยื่อจากการค้ามนุษย์ และจะดำเนินการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายให้ถึงที่สุด ย้ำอุทาหรณ์ครั้งนี้ ขอคนไทยก่อนออกเดินทางไปทำงานนอกประเทศ ต้องรอบคอบ ตรวจสอบบริษัท สถานะการทำงาน สวัสดิภาพ สวัสดิการ ให้ดีก่อน อย่าได้ตกเป็นเหยื่อของขบวนค้ามนุษย์ คอลเซ็นเตอร์ หรือการหลอกลวงทุกประเภท เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว อันตรายที่จะเกิดขึ้นก็จะเกิดขึ้นกับตัวพี่น้องประชาชนเองเป็นลำดับแรก
