เจ้าหน้าที่ภาครัฐปราบปรามกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด เนื่องจากเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรง และเป็นตันเหตุของการเกิดอาชญากรรมในสังคม อันจะส่งผลกระทบต่อประชาชน
1 min readPRESS RELEASE
กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล ๘
กองบัญชาการตำรวจนครบาล
แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร
“สีบนครบาล ๘ รวบแก๊งพุทธมณฑลสาย ๑ ซุกยาบ้า – เค รายใหญ่”
ตามนโยบายของรัฐบาลให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐปราบปรามกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด เนื่องจากเป็นภัย
คุกคามที่ร้ายแรง และเป็นตันเหตุของการเกิดอาชญากรรมในสังคม อันจะส่งผลกระทบต่อประชาชน
และสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โตย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์
รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ
เร่งรัด กวดขัน สืบสวน ปราบปรามจับกุม ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดทุกข้อหา มุ่งเน้นข้อหาความผิด
ร้ายแรง ได้แก่ การครอบครองยาเสพติดเพื่อการค้า จำหน่าย ผลิต นำเข้า ส่งออก สมคบ สนับสนุน
ช่วยเหลือแก่กลุ่มเครือข่ายยาเสพติด
กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย พล.ต.ท.ธิตี แสงสว่าง ผบช.น.. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัศรเกษม
รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และ
พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น.
กองบังคับการตำรวจนครบาล ๘ โดย พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.น.๘ , พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ สว่างงาม
รอง ผบก.น.๘ และ พ.ต.อ.บุญส่งวิทย์ ห้องแซง รอง ผบก.น.๘
กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล ๘ โดย พ.ต.อ.โชติช่วง รัศมี ผกก.สส.บก.น.๘.
พ.ต.ท.ธวัชชัย อินทะเสย์, พ.ต.ท.อชิรเวชชย์ สุพรรณภสัช รอง ผกก .สส.บก.น.๘, พ.ต.ท.นัทธพงศ์ แก้วอยู่.
พ.ต.ท.ธวัชชัย แจ่มวิถีเลิศ, และ พ.ต.ต.ณกฤตชัย สุขนิล สว.กก.สส.บก.น.๘
วันเวลาจับกุม/ตรวจยึด
วันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๗ เวลา ๒๓.๐๐ น.
สถานที่จับกุม/ตรวจยึด
บ้านเลขที่ ๖๐/๑๗๙ ซอย ๑๑ หมู่บ้าน ณัฐนันทโฮม ตำบลคูขวาง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัด
ปทุมธานี
จับกุมผู้ต้องหา จำนวน ๖ ราย
๑. นายกิตติธัช หรือเน็ต (สงวนนามสกุล)
อายุ ๓๓ ปี
๒. น.ส.ชญาภา หรือริน (สงวนนามสกุล)
๓. นายกิตติศักดิ์ หรือจอน (สงวนนามสกุล) อายุ ๒๔ ปี
อายุ ๓๒ ปี
๔. นายทวีศักดิ์ หรือปอน (สงวนนามสกุล)
๕. นายพงศ์ศักดิ์ หรือเณร (สงวนนามสกุล) อายุ๓๑ ปี
อายุ ๓๓ ปี
๖. น.ส.วีไลวรรณ หรือนก (สงวนนามสกุล) อายุ ๓๕ ปี
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท * (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามึน)
โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการ
แพร่กระจายในหมู่ประชาชน, ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ (คีตามึน) โดยการมีไว้
เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจาย
ในหมู่ประชาชน”
พร้อมด้วยของกลาง
๑. ยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า)
จำนวน ๕,๖๐๐,๐๐๐ เม็ด
๒. วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท ๒ (คีตามีน)
จำนวน ๒๐๐ กิโลกรัม
๓. รถยนต์ที่ใช้เก็บซุกซ่อนและขนส่งยาเสพติด
จำนวน ๔ คัน
พฤติการณ์กล่าวคือ
เจ้าหน้าตำรวจสีบสวนนครบาล ๘ ได้สืบสวนจากกลุ่มผู้คำรายย่อยในพื้นที่ฝั่งธนบุรี จนสามารถ
จับกุมผู้ค้ารายใหญ่ที่เป็นผู้กระจายยาเสพติตได้ ที่พื้นที่รามอินทรา เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม ๒๕”๖๗ จึงได้
สืบสวนขยายผลถึงต้นทางยาเสพติดดังกล่าว จนทราบว่ามีเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ที่ลักลอบกระจาย
เสพติดในพื้นที่ภาคกลาง โดยเป็นแก๊งที่รวมตัวมั่วสุมเสพยาเสพติดกันที่อู่ซ่อมรถ บริเวณถนนพุทธมณฑล
สาย ๑ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร แล้วจะลักลอบไปรับยาเสพติตจำนวนมากมาเก็บซุกซ่อนไว้ที่
บ้านเลขที่ ๖๐/๑๗๙ หมู่บ้านณัฐนันท์โฮม พื้นที่ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ซึ่งได้เช่าไว้เพื่อเก็บซุกซ่อน
ยาเสพติดโดยเฉพาะ จากนั้นจะใช้รถยนต์หลายคันนำยาเสพติดออกมาทยอยส่งต่อให้กับลูกค้าในช่วงเวลา
ค่ำและดึก เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้สืบสวนเฝ้าติดตามพฤติการณ์เรื่อยมา จนเชื่อว่ามีการใช้รถยนต์
กระบะตู้บรรทุกไปรับยาเสพติด และใช้รถยนต์นำระวังเส้นทาง จากพื้นที่ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี
แล้วนำยาเสพติดเก็บซุกซ่อนไว้เพื่อรอกระจายยาเสพติด
จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมไปเฝ้าจุดสังเกตการณ์ ที่บ้านเช่าหลังดังกล่าว จนกระทั่ง
วันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๗ เวลาประมาณ ๒๓.00 น. พบกลุ่มของผู้ต้องหามาอยู่รวมกันเพื่อจะนำยาเสพติด
ออกไปกระจายต่อให้กับลูกค้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปแสดงตัวและขอตรวจค้น พบ ยาบ้า
จำนวน ๕,๖๐๐,๐๐๐ เม็ด และ เคตามีน จำนวน ๒00 กิโลกรัม ซุกช่อนอยู่ภายในรถยนต์กระบะ
ตู้บรรทุกและภายในบ้านเช่าหลังดังกล่าว
จากการชักถามขยายผล กลุ่มผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้รู้จักกับมานานและรวมตัวกับอยู่ที่อู่ซ่อม
รถของนายพงศ์ศักดิ์ หรือเณร ผู้ต้องหาที่ ๕ เพื่อมั่วสุมเสพยาเสพติดกัน ต่อได้เริ่มผันตัวเป็นผู้จำหน่ายราย
ย่อยจนกระทั่งมารับจ้างจากผู้สั่งการ ให้ไปรับยาเสพติดติดจำนวนมากมาเก็บซุกซ่อนไว้ก่อนนำออก
กระจายให้กับลูกค้า โดยทำตามคำสั่งผู้ว่าจ้างว่าจะไปรับยาเสพติดที่ใด เมื่อใด และจะต้องส่งยาเสพติด
ต่อให้กับลูกค้ารายใด โดยที่ไม่รู้จักทั้งผู้ส่งและมารับยาเสพติด ซึ่งจะได้เพียงค่าจ้างเป็นรอบๆเท่านั้น
ที่มา : กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล ๘