หนุ่มใหญ่พึ่งออกจากคุก ตกงานกินนอนอย่างเดียวอยู่ในบ้าน 2 ปี ญาติพี่น้องบ่นทนไม่ได้ กะยิงล้างครัว สุดท้ายน้องชายดับคาบ้านย่านมีนบุรี
1 min readเรียนผู้บังคับบัญชา
วันที่ 26 พ.ค. 67 เจ้าพนักงานตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี ได้จับกุมตัว
นายชัยวัฒน์ เขมา อายุ 41 ปี (3-1413-00140-64-3)
ที่อยู่ เลขที่ 64 ซอยรามคำแหง 190/3 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร
พร้อมของกลาง
1. อาวุธปืนพกแบบรีวอลเวอร์ ยี่ห้อสมิธแอนด์เวสสัน ขนาด .38 สีดำ ไม่ทราบเครื่องหมายทะเบียน จำนวน 1 กระบอก ฐานความผิด “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามหมายจับของศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.740/2567 ลงวันที่ 26 พฤษภาคม 2567 สถานที่จับกุม บริเวณถนนสีหบุรานุกิจ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์
ด้วยวันที่ 25 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 16.50 น. ศูนย์วิทยุ สน.มีนบุรี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงกันจนมีผู้ถึงแก่ความตายที่บริเวณบ้านเลขที่ 64 ซ.รามคำแหง 190/3 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ทาง พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.3 , พ.ต.อ.ถนัด นักธรรม รอง ผบก.น.3 (รับผิดชอบงานสืบสวน) , พ.ต.อ.กฤษ ก้อมน้อย ผกก.สน.มีนบุรี , พ.ต.ท.จำนงค์ ประสพสุขมั่งดี รอง ผกก.สส.สน.มีนบุรี , พ.ต.ท.ชนันท์ธัช แก้วทอง สว.สส.สน.มีนบุรี , พ.ต.ต.ประจักษ์ กุลนาพันธ์ สว.สส.สน.มีนบุรี พร้อมฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี และ พ.ต.ท.นิมิตร เจริญบุญ สวป.สน.มีนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยร่มไทร ได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พบเป็นบ้าน 2 ชั้นแบบครึ่งไม้ครึ่งปูน ที่บริเวณชั้นล่างเป็นห้องนอนใหญ่ พบนายชัยยุทธ หรือ แจ๊ค เขมา อายุ 41 ปี ที่อยู่ 19 ม.2 แขวงคู้ฝั่งเหนือ เขตหนองจอก กทม. ถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาด จำนวน 5 นัด ที่บริเวณลำตัวและใบหน้า นอนไม่ได้สติอยู่ภายในห้องนอนชั้นล่างของบ้านหลังที่เหตุเกิด จนท.กู้ภัยร่มไทร ให้ทำการช่วยชีวิตแต่ไม่สามารถยื้อชีวิตได้ จึงได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการตรวจที่เกิดเหตุพบว่าที่บริเวณชั้นล่างหน้าห้องนอนใหญ่พบปลอกกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 6 นัด และที่บริเวณหน้าบ้านพบ ปลอกกระสุนปืนขนาด .38 อีกจำนวน 2 นัด รวม 8 นัด
จากการสอบถามพยานในที่เกิดเหตุพบนางวงษ์ เขมา แม่ของนายชัยยุทธ หรือ แจ๊ค เขมา ผู้เสียชีวิต และนายอิสมาแอล ภู่สำลี พ่อเลี้ยง ได้ให้การว่าผู้ก่อเหตุคือ เป็นพี่ของผู้เสียชีวิต ซึ่งอาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าว ก่อนเกิดเหตุนายชัยยุทธ หรือ แจ๊ค ฯ ได้หาแม่ โดยนำเอาอาหารและทุเรียนมาให้ที่บ้าน ซึ่งอาศัยอยู่ด้วยกัน 5 คน คือพ่อเลี้ยง , แม่ , นายชัยวัฒน์ หรือ โก๊ะ ฯ , น้องชายที่เป็นออทิสติก และ หลานชาย เมื่อมาถึงบ้านพบ พ่อเลี้ยง แม่ น้องชาย และหลาน อยู่ในห้องนอนชั้นล่าง ส่วนนายชัยวัฒน์ หรือ โก๊ะ ฯ พี่ชายอยู่ในห้องนอนชั้นบนของบ้านคนเดียว ซึ่งมีความไม่พอใจเนื่องจากก่อนหน้านี้นายชัยวัฒน์ หรือ โก๊ะ ฯ พี่ชาย เคยติดคุกคดีทำร้ายภรรยาเก่าจนบาดเจ็บสาหัส ติดคุกอยู่หลายปีพึ่งพ้นโทษออกมาได้ประมาณ 2 ปีแล้ว แต่ไม่ยอมไปทำการทำงาน อาศัยพ่อแม่ และตนเองคอยเลี้ยงดู วัน ๆ มีแต่กินกาแฟ กินข้าว สูบบุหรี่ แล้วก็นอน ทุกวันต้องขอเงินคนในบ้านซื้อกาแฟ บุหรี่ ทุกวัน เมื่อพูดเพื่อให้ไปหางานทำก็โกรธ ไม่พอใจคนในครอบครัว
ต่อมาเวลาประมาณ 16.50 น. นายชัยยุทธ หรือ แจ๊ค ฯ ได้เข้ามาถึงบ้านและตะโกนบ่นถึงพี่ชาย เป็นเหตุให้นายชัยวัฒน์ หรือ โก๊ะ ฯ ที่อยู่ชั้นบนของบ้านได้ยิน เกิดความไม่พอใจ จึงได้วิ่งลงมาจากบนบ้าน เข้ามาใช้อาวุธปืนพกสั้นยิงใส่นายชัยยุทธ หรือ แจ๊ค ฯ ที่ยืนค้ำประตูทางเข้าห้องนอนของแม่ ชุดแรก จำนวน 2 นัด นายชัยยุทธ หรือ แจ๊ค ฯ ได้ตะโกนว่า “มึงยิงกูเหรอ” แล้วจึงหันหลังวิ่งเข้าไปในห้อง นายชัยวัฒน์ หรือ โก๊ะ ฯ ชุดที่ 2 อีกจำนวน 3 นัด ต่อมานายชัยยุทธ หรือ แจ๊ค ฯ ได้ล้มลงกับพื้น นายชัยวัฒน์ หรือ โก๊ะ ฯ จึงได้ตามไปยิงซ้ำชุดที่ 3 อีกจำนวน 1 นัด จากนั้นได้วิ่งออกนอกประตูไปสลัดปลอกกระสุนออก แล้วจึงได้ตามไปยิงซ้ำชุดที่ 4 ที่บริเวณลำตัวและใบหน้าอีกจำนวน 2 นัด จากนั้นได้หันไปยิงใส่ นางวงษ์ ฯ ผู้เป็นแม่ที่หลบไปอยู่ข้างประตู อีก 1 นัด เสียงปืนดังแชะ จากนั้น ได้หันปืนไปยิงใส่นายอิสมาแอล ฯ ผู้เป็นพ่อเลี้ยงที่หลบอยู่หลังตู้เย็นอีก 1 นัด เสียงปืนดังแชะ จากนั้นจึงได้หันปืนเล็งไปที่น้องชายที่เป็นออทิสติก เพื่อยิงใส่อีกคน นายอิสมาแอล ฯ ผู้เป็นพ่อเลี้ยง จึงได้ตะโกนห้ามว่าอย่าทำน้อง นึกถึงบุญคุณที่เคยดูแลกันมั่ง ทำให้ นายชัยวัฒน์ หรือ โก๊ะ ฯ ลดปืนลง แล้วเดินออกจากห้องไปอย่างใจเย็นจากนั้นได้สลัดปลอกกระสุนทิ้งที่บริเวณทางเข้าหน้าบ้านแล้ววิ่งหลบหนีไปตามถนนเลียบชายคลอง
นายชัยวัฒน์ หรือ โก๊ะ เขมา “ฉายาโก๊ะ คลองสองต้นนุ่น” นิสัยเงียบขึม ไม่สุงสิงกับผู้ใด มีอารมณ์ฉุนเฉียวง่าย เคยก่อเหตุทำร้ายภรรยาเก่าที่ตลาดมีนบุรีจนปางตาย ถูกจับกุมติดคุกอยู่หลายปี เมื่อออกจากคุกมาประมาณ 2 ปี ไม่ยอมทำงานทำการทำให้คนในบ้านรวมทั้งผู้ตายพยายามตักเตือน เพื่อให้หางานทำให้มีรายได้เป็นหลักแหล่ง แต่ไม่ใส่ใจ และขู่อาฆาตคนในครอบครัว ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ติดตามจับกุมมาดำเนินคดีให้ได้
ต่อมา พ.ต.ท.ธนาเดช หนูเอียด รอง ผกก.(สอบสวน) สน.มีนบุรี ได้ทำการยื่นคำร้องต่อศาลอาญามีนบุรี เป็นกรณีเร่งด่วนเพื่อออกหมายจับผู้ก่อเหตุ ต่อมาศาลอาญามีนบุรี ได้อนุมัติหมายจับเลขที่ จ. 740/2567 ลงวันที่ 26 พ.ค. 67 เมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. ให้จับกุม นายชัยวัฒน์ หรือ โก๊ะ เขมา ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , พยามยามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ฯ
ต่อมา ฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี ได้รับแจ้งว่ามีชายแต่งกายลักษณะคล้ายกับผู้ก่อเหตุกำลังเดินเท้ามุ่งหน้าไปที่ สน.มีนบุรี ซึ่งขณะนั้นทางพยานและญาติ ๆ ของผู้เสียชีวิตรวมตัวกันอยู่ที่ สน.มีนบุรี เกรงว่าจะมาก่อเหตุซ้ำ จึงได้ออกมาทำการตรวจสอบ พบ นายชัยวัฒน์ หรือ โก๊ะ เขมา กำลังเดินเลียบถนนสีหบุรานุกิจมายัง สน.มีนบุรี ตามที่ได้รับแจ้งจริง จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจค้น พบอาวุธปืนพกแบบรีวอลเวอร์ ยี่ห้อสมิทธิ์ แอนด์ เวสสัน ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พกอยู่ที่เอว จึงได้ทำการจับกุมตัวหมายจับศาลอาญามีนบุรี เลขที่ จ. 740/2567 ลงวันที่ 26 พ.ค. 67 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , พยามยามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ฯ นำส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี
จากการสอบสวน นายชัยวัฒน์ หรือ โก๊ะ ฯ ให้การรับสารภาพว่ามีความโกรธเครืองกับบุคคลในครอบครัว ซึ่งคอยพูดจาเหยียดหยามอยู่ตลอดเวลา จนเกิดความคับแค้นใจ ได้จัดเตรียมอาวุธปืนดังกล่าวมาประมาณ 3 วันแล้ว ต่อมาในวันนี้ถูกผู้ตายและคนในครอบครัวพูดจาดูหมิ่นอีก จึงได้นำเอาอาวุธปืนดังกล่าววิ่งลงมาจากบนบ้านยิงใส่น้องชายจนเสียชีวิต และยิงใส่แม่ และพ่อเลี้ยง และ น้องชายที่เป็นออทิสติกอีก เนื่องจากกระสุนที่ใส่ไปในลูกโม่หมดลงก่อน จึงมีแต่เสียงดัง แชะ แชะ ทำให้ แม่ และพ่อเลี้ยง และ น้องชาย รอดตาย และจะไม่ขอโทษ แม่ และ พ่อเลี้ยงเนื่องจากการกระทำดังกล่าวแต่อย่างใด โดยได้เตรียมตัวเตรียมใจ ไว้แล้ว