บันทึกจับตรวจยึดลักทรัพย์ในเวลากลางคืน เสพฯครอบครอง
1 min readสืบเนื่องจากวันนี้ (7 ก.ค.2567 ) ตาม ปจว.ข้อ3 วันที่ 7 ก.ค.67 เวลา 08.26 น. น.ส.ภคพร ลินต๊ะพาน แจ้งว่า มีเหตุลักทรัพย์บ้านเลขที่ 1298-1300 ถ.สุทธิสารวินิจฉัย แขวง/ตำบล รัชดาภิเษก โดยมีชาย 3 คน ได้เข้ามาลัก น้ำอัดลมโค้กจำนวนประมาณ 40 แพ็ค,มะนาวจำนวน 1 กระสอบ และทิชชู่จำนวน 1 ลัง โดยพังประตูเข้ามา ต่อมาฝ่ายสืบสวน รับแจ้งจากสายลับว่าผู้ก่อเหตุในคดีนี้คือ นายปวรุตม์ ไข่มุข และนายทศพร
โสภาพ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งผู้บังคับบัญชาทราบและนำกำลังไปตรวจสอบ ต่อมาเวลาประมาณ 10.00 น. พบ นายปวรุตม์ ไข่มุข อายุ 27 ปี ผู้ถูกจับที่1 มีตำหนิรูปพรรณตรงกับที่สายลับแจ้งมา ยืนอยู่หน้าห้องเลขที่ 807 อาคารโชคสมบูรณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสอบถามเหตุลักทรัพย์บ้านเลขที่ 1298-1300 โดยนายปวรุตม์ฯรับว่า ตนเป็นผู้ก่อเหตุลักทรัพย์ที่บ้านหลังดังกล่าวจริง โดยมี นายทศพร โสภาพ ร่วมก่อเหตุด้วย โดยตนได้ว่าจ้างรถยนต์ของบริษัท LALA MOVE ให้มาช่วยขนสิ่งของที่ขโมย
โดยได้ทรัพย์สินเป็น โค้กและโค้กซีโร่ขนาด 330 มล. รวมประมาณ 23 แพ็ค และมะนาว จำนวน 1 กระสอบ โดยใช้รถกระบะบรรทุกไปขายที่ร้านค้า ในราคาประมาณ ๒,600 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงพานายปวรุฒม์ฯไปที่ ร้านค้าบ้านหลังดังกล่าว ด้วยความสมัครใจ ไม่มีการใช้กำลังขู่เข็ญบังคับ จนเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. พบ
น.ส.สุรีรัตน์ แก้ววังสวง อายุ 47 ปี อยู่ร้านค้า โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงตัวและสอบถาม น.ส.สุรีรัตน์ฯ ให้การว่าเมื่อวันที่ 6 ก.ค.67 เวลาประมาณ 20.49 น. มีชาย2 คนโดยสารรถกระบะ LALA MOVE นำ โค้กและมะนาวมาขายที่ร้านจริง โดยยืนยันว่า นายปวรุตม์ฯ ผู้ถูกจับที่1 ที่มากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นคนนำมาขายกับชายอีกคนไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง และโดยตนรับซื้อในราคา 2,600 บาท ซึ่งตนรับซื้อเพราะผู้ถูกจับที่1และ2 เคยขับรถยนต์ห้างแม็คโครมาส่งสินค้าที่ร้านตน และเสนอขายสินค้าโดยอ้างว่าโละสต็อคให้ในราคาถูก มาแล้ว 2-3 ครั้ง คราวนี้ตนจึงเชื่อว่าเป็นสินค้าที่โละมาจากห้างแม็คโคร โดยโค้กบางส่วนได้ขายไป คงเหลือโค้กขนาด 330 มล. จำนวน 19 แพ็คกับ 10 ขวด(ของกลางลำดับที่1) โค้กซีโร่ขนาด 330 มล. จำนวน 3 แพ็ค (ของกลางลำดับที่2)และมะนาวจำนวน 1 กระสอบ (ของกลางลำดับที่3) เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลางด้วยความสมัครใจของ น.ส.สุรีรัตน์ฯ ตามบันทึกตรวจยึดทรัพย์สิน(ของกลางลำดับที่5) จากนั้นนายปวรุตม์ฯ ผู้ถูกจับที่1 แจ้งว่า นายทศพร โสภาพ ที่ร่วมก่อเหตุลักทรัพย์กับตนตอนนี้มารอตนอยู่ที่ บริเวณลานจอดรถอาคารโชคสมบูรณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังไปตรวจสอบ เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. พบ นายทศพร โสภาพ อายุ 27 ปี ผู้ถูกจับที่ 2 ยืนอยู่บริเวณลานจอดรถอาคารโชคสมบูรณ์ ตำหนิรูปพรรณตรงกับที่สายลับแจ้งมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสอบถามถึงเหตุลักทรัพย์ บ้านเลขที่ 1298-1300 ถ.สุทธิสารวินิจฉัย
โดยนายปวรุตม์ฯรับว่า ตนเป็นผู้ก่อเหตุลักทรัพย์ที่บ้านหลังดังกล่าวจริง โดยมี นายปวรุตม์ฯ ร่วมก่อเหตุด้วย โดย นายปวรุตม์ฯได้ว่าจ้างรถยนต์ของบริษัท LALA MOVE ให้มาช่วยขนสิ่งของที่ขโมยมา โดยได้ทรัพย์สินเป็น โค้กและโค้กซีโร่ขนาด 330 มล. รวมประมาณ 23 แพ็ค และมะนาว จำนวน 1 กระสอบ โดยใช้รถกระบะบรรทุกไปขายที่ร้านค้า ในราคาประมาณ ๒,600 บาท เนื่องจาก มีพยานหลักฐานว่าผู้ถูกจับที่1และ2 ร่วมกันก่อเหตุจริง และเป็นเหตุจำเป็นเร่งด่วน ไม่สามารถออกหมายจับได้ทัน ประกอบกับผู้ถูกจับที่1และ2 ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เกรงว่าจะหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาผู้ถูกกจับที่1และ2 ว่าร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. เมื่อมาถึงบริเวณลานจอดรถยนต์ สน.สุทธิสาร นายทศพรฯผู้ถูกจับที่2 รับว่า ตนมียาเสพติด(ยาบ้า)ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอทำการตรวจค้นผู้ถูกจับที่1 และ2 ก่อนทำการตรวจค้นและตรวจสอบได้แสดงความบริสุทธิ์ใจต่อหน้าผู้ถูกจับทั้งสองจนเป็นที่พอใจแล้ว จึงขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นผู้ถูกจับที่1 ไม่พบสิ่งของผิดกฏหมาย ผลการตรวจค้นผู้ถูกจับที่2 พบยาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) ฃนิดเม็ดกลมแดง บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสสีขาว มีที่เปิดปิดได้ด้านหนึ่ง จำนวน 4 เม็ดอยู่ในกระเป๋ากางเกงข้างขวาที่ผู้ถูกจับที่2 สวมใส่อยู่ (ของกลางลำดับที่5)
โดยผู้ถูกจับที่1และ2 รับว่าได้เสพยาบ้ามาด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดของกลางทั้งหมด เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี จากนั้นเจ้าพนักงานตำรวจจึงได้พาตัว ผู้ถูกจับทั้งสอง มาที่ สน.สุทธิสาร เพื่อทำการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะ จากการทดสอบโดยแผ่นทดสอบหาสารเสพติดในปัสสาวะ พบว่าให้ผลเป็นบวก เจ้าพนักงานตำรวจจึงนำปัสสาวะไปตรวจที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณะสุข เพื่อยืนยันผลอีกครั้ง ผลปรากฏว่าพบเมทแอมเฟตามีนในตัวอย่างปัสสาวะของ ผู้ถูกจับที่ 2 ปรากฏตามหนังสือรายงานผลการตรวจปัสสาวะโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณะสุข ลงวันที่ 7 ก.ค.2567 2567 เวลา 16.18 น. และ พบเมทแอมเฟตามีนในตัวอย่างปัสสาวะของ ผู้ถูกจับที่ 1 ปรากฏตามหนังสือรายงานผลการตรวจปัสสาวะโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณะสุข ลงวันที่ 7 ก.ค.2567 2567 เวลา 16.17 น. จากนั้น น.ส.สุรีรัตน์ แก้ววังสวง เจ้าของร้านค้า ได้มาที่ห้องสืบ สน.สุทธิสาร และชี้ยืนยันว่า นายทศพร โสภาพ อายุ 27 ปี ผู้ถูกจับที่ 2 เป็นคนที่ร่วมกับ นายปวรุตม์ฯ ผู้ถูกจับที่1 มาขายสินค้าให้ตนเมื่อวันที่ 6 ก.ค.2567 จริง และต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อไปยังเจ้าของรถกระบะ LALA MOVE ที่มาขนสินค้า
โดยเจ้าของรถกระบะ ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจมาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยแสดงตนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนชื่อ นายณัฐวุฒิ แย้มชัย เป็นพนักงานขับรถยนต์อิสระของ LALAMOVE โดยตนได้รับการติดต่อให้มารับ คนและสินค้า ที่ ซอยอินทามระ26 ในราคา241 บาท และตนไม่รู้เห็นเกี่ยวกับการลักทรัพย์ในครั้งนี้ เจ้าพนักงานตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาแจ้งสิทธิให้ผู้ถูกจับที่1และ2 ทราบว่า ผู้ถูกจับที่1 เสพยาเสพติด (เมทแอมเฟตามีนยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ผู้ถูกจับที่ 2 มียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า)ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติด (เมทแอมเฟตามีนยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ผู้ถูกจับที่1และ2 ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ และจึงนำของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป