10 มกราคม 2025

หนังสื่อพิมพ์ อินไซด์โปลิคไทม์ – insidepolicetime.com

นังสื่อพิมพ์ อินไซด์โปลิคไทม์ – insidepolicetime.com

“ผู้ต้องหาที่ 1 พยายามฆ่าผู้อื่น ผู้ต้องหาที่ 1-2 ร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว โดยไม่มีเหตุสมควร”

1 min read

🇹🇭🙏เรียนผู้บังคับบัญชา🙏🇹🇭
👮สน.เพชรเกษม👮

🔹 อำนวยการจับกุมโดย พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม , พ.ต.ท.ยุติธรรม มหานิล รอง ผกก.สส.สน.เพชรเกษม พ.ต.ต.ธวัชชัย ทิพย์วงษ์ สว.สส.สน.เพชรเกษม และชุดสืบสวน สน.เพชรเกษม
🔹1🔹ว/ด/ป
16 กรกฎาคม พ.ศ.2567 เวลาประมาณ 07.20 น.
🔹2🔹จับกุม
1.นายคทาวุธ หรือโจ ไพฑูรย์ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 (คนซ้อน/ยิง) เลขประจำตัวประชาชน 3-1018-00450-79-0
ที่อยู่ 3 ซอยเจริญนคร 39 ถนนเจริญนคร แขวงบางลำพูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพฯ
2.นายต้อม หรือแก๊บ เสนารัตน์ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคนที่ 2 (คนขับ) เลขประจำตัวประชาชน 1-1020-01386-95-5
ที่อยู่ 46 หมู่ 12 ตำบลหนองมะแซว อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ
🔹3🔹ข้อหา “ผู้ต้องหาที่ 1 พยายามฆ่าผู้อื่น ผู้ต้องหาที่ 1-2 ร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้
ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว โดยไม่มีเหตุสมควร”
🔹4🔹พร้อมด้วยของกลาง
4.1. อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ (อาวุธปืนแบลงค์กันดัดแปลงลำกล้อง) ขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก
4.2. เครื่องกระสุนปืน ขนาด .380 จำนวน 2 นัด
4.3. ซองกระสุน จำนวน 1 อัน
4.4.เสื้อแจ๊คเก็ตแขนยาวมีฮู๊ด สีเทา จำนวน
4.5.รองเท้าแตะแบบหูคีบ สีขาว ยี่ห้อ ADDA สีขาว จำนวน 1 คู่
4.6.กางเกงยีนส์ขาสั้น(ตัดขา)สีนำเงิน จำนวน 1 ตัว
4.7.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นแกรนด์ ฟีลาโน่ สีดำ (ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน)
🔹5🔹สถานที่จับกุม
บ้านเลขที่ 484 ซอยเอกชัย 46 แขวงคลองบางพราน เขตบางบอน กรุงเทพฯ
🔹6🔹พฤติการณ์


ก่อนจับกุมในคดีนี้เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2567 เวลาประมาณ 02.15 น. เจ้าพนักงานชุดจับกุมได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนางชัญญาพมนต์ เลิศอนันทนายศ (ทราบชื่อภายหลัง) ได้รับบาดเจ็บ และพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ จากการสืบสวนทราบขณะที่นางชัญญาพมนต์ฯ ผู้ได้รับบาดเจ็บได้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์โดยมีนายปวีณ์พงศ์ เลิศนันทนายศ ซึ่งเป็นสามีเป็นผู้ขับขี่ ขณะขับมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายจำนวน 2 คนได้ใช้อาวุธปืนยิงนางชัญญาพมนต์ฯ ได้รับบาดเจ็บแล้วหลบหนีไป ซึ่งจากการสืบสวนโดยใช้สายลับและตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนทราบว่าคนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีเข้าไปในบ้านไปจอดที่บ้านเลขที่ 484 ซอยเอกชัย 46 แขวงคลองบางพราน เขตบางบอน กรุงเทพฯ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และสืบสวนจนแน่ชัดแล้วว่าผู้ก่อเหตุพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว จึงได้ขออนุมัติหมายค้นจากศาลอาญาธนบุรีเพื่อตรวจค้นที่บ้านหลังดังกล่าว ต่อมาวันนี้ (16 ก.ค.2567) ได้ร่วมกันนำหมายค้นของศาลอาญาธนบุรีตามหมายค้นที่ 285/2567 ลงวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 ไปตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 484 ซอยเอกชัย 46 แขวงคลองบางพราน เขตบางบอน กรุงเทพ เมื่อไปถึงพบนายอำพล หรือกอล์ฟ เสนารัตน์ (ทราบชื่อนามสกุลจริงภายหลัง) อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว สอบถามรับว่าเป็นเจ้าของบ้าน จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมทั้งแสดงบัตรประจำตัวให้ดู และแสดงหมายค้นของศาลอาญาธนบุรีให้นายอำพล ฯ ดูและอ่านข้อความตามหมายให้ฟังจนเป็นที่เข้าใจแล้วยินยอมให้ตรวจค้น โดยก่อนตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ นายอำพล ฯ ดูจนเป็นที่พอใจแล้ว นำเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้น ผลการตรวจค้นปรากฏว่าพบอาวุธปืน (ของกลางลำดับที่ 1) ซองกระสุนปืน(แมกกาซีน) (ของกลางลำดับที่ 3) ในภายบรรจุเครื่องกระสุนปืน ขนาด .380 จำนวน 2 นัด (ของกลางลำดับที่ 2) วางอยู่บนชั้นวางของภายในห้องนอนชั้น 2 ซึ่งมีนายพิริยะ หรือเก่ง สุบิล นอนอยู่ในภายห้องดังกล่าว จากการสอบถามนายพิริยะฯ รับว่าอาวุธปืนดังกล่าวเป็นของนายคทาวุธ หรือโจ ไพฑูรย์ ผู้ต้องหาที่ 1 (ทราบชื่อภายหลัง) ซึ่งนำมาวางไว้ในห้องนอนของตน โดยที่นายพิริยะฯ ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับอาวุธปืนดังกล่าว ซึ่งเมื่อนายพิริยะฯ ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนกับอาวุธปืนดังกล่าว ประกอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อมูลว่าผู้ที่ใช้อาวุธปืนยังไม่ใช่นายพิริยะฯ จึงได้ให้ติดต่อนายคทาวุธฯ ซึ่งนายพิริยะฯ อ้างว่าเป็นเจ้าของปืน มาที่ห้องที่มีอาวุธปืนวางอยู่ จากนั้นต่อมานายคทาวุธ ผู้ต้องหาที่ 1 พร้อมด้วย นายต้อม หรือแก๊บ เสนารัตน์ ผู้ต้องหาที่ 2 ได้มาที่เกิดเหตุ

เมื่อมาถึงนายคทาวุธ รับว่าอาวุธ และเครื่องกระสุนปืน เป็นของตนเองจริง และได้ใช้ก่อเหตุยิงตามวันเวลาที่เกิดเหตุจริง สอบถามรับว่าตามวันเวลาเกิดเหตุ ได้มีรุ่นน้องแจ้งว่ามีเรื่องกับกลุ่มวัยรุ่น นายคทาวุธฯ และนายต้อมฯ ซึ่งขณะนั้นกำลังเล่นสนุกเกอร์อยู่ จึงได้ชวนกันออกมาเพื่อช่วยรุ่นน้อง โดยมีนายต้อมฯ เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ (ของกลางลำดับที่ 7) โดยมีนายคทาวุธฯ เป็นคนซ้อน เมื่อขับมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุนายคทาวุธฯ ได้ชักอาวุธปืนออกมายิง เป็นเหตุให้กระสุนปืนถูกนางนางชัญญาพมนต์ ซึ่งนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์สวนทางมา เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นนายต้อมๆ และนายคทาวุธฯ ก็ได้ขับรถหลบหนีไปยังบ้านพัก และนำอาวุธปืนมาเก็บไว้ที่ห้องที่เกิดเหตุ จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นพบอาวุธปืนดังกล่าวจริง สอบถามนายคทาวุธฯ รับว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง ส่วนนายต้อมฯ ทราบแต่เพียงว่านายคทาวุธฯ มีอาวุธปืนมาเท่านั้น แต่ขณะก่อเหตุยิงตนเองไม่ทราบแต่อย่างใด

จึงได้ยึดอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน รถจักรยานยนต์คันที่ใช้ขับขณะก่อเหตุ และเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ที่ใช้สวมใส่ในวันที่ก่อเหตุ ทั้งหมดไว้เป็นของกลาง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้พบ พยานหลักฐานรวมทั้งอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ก่อเหตุ อยู่ในความครอบครองของผู้ต้องหา สอดคล้องกันภาพวงจรปิด อันเป็นหลักฐานอันควรเชื่อว่านายคทาวุธฯ และนายต้อม ได้ร่วมก่อเหตุจริง หากเป็นการเนิ่นช้า ที่จะเอาหมายจับมาได้เกรงว่าผู้ต้องหาทั้งคู่จะหลบหนี จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You may have missed