“MONEY CASH BACK ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน EP.10” ตำรวจไซเบอร์รวบเครือข่ายแกล้งทักไลน์ผิดแล้วตีสนิทหลอกลงทุน ตามอายัดทันทั้ง 5 แสน นำคืนผู้เสียหาย
1 min read
ตามนโยบาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน และ “นโยบายรัฐบาลในการจัดการปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติยุค Digital Disruption” แก่ข้าราชการตำรวจระดับผู้บริหารทั่วประเทศ ในโครงการสัมมนาผู้บริหาร ระดับผู้บัญชาการหรือเทียบเท่า และผู้บังคับการหรือเทียบเท่า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศปปง.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส./ผอ.ศตคม.ตร. และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และดำเนินคดี
ให้ถึงที่สุด จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว
วันพฤหัสบดีที่ 12 มิ.ย.68 เวลา 10.00 น. ณ บริเวณชั้น 1 บก.สอท.2 นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์
รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 และ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.3
พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว“MONEY CASH BACK ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน EP.10”
ตำรวจไซเบอร์รวบเครือข่ายแกล้งทักไลน์ผิดแล้วตีสนิทหลอกลงทุน ตามอายัดทันทั้ง 5 แสน นำคืนผู้เสียหาย
สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดดำเนินการ
ตามโครงการ “MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน” โดยก่อนหน้านี้ สามารถจับกุมเครือข่ายบัญชีม้าของขบวนการหลอกลวงออนไลน์ และสามารถติดตามนำคืนให้แก่ผู้เสียหายตามขั้นตอนในโครงการ “Money Cash Back” ไปแล้วหลายครั้ง รวมจำนวนเงินกว่า 7ล้านบาท
สืบเนื่องจากมีกรณี เมื่อธันวาคม 2567 ได้ผู้เสียหายถูกบัญชีไลน์ชื่อ “Nut” โดยอ้างว่าตนเองชื่อ นายพีร์
โรจนดารา ติดต่อทางแอปพลิเคชันไลน์ทำทีว่าติดต่อผิดคน จากนั้นได้ตีเนียนชวนพูดคุยสร้างความสนิทสนม
กับผู้เสียหายแล้วชักชวนให้ลงทุนเทรดหุ้น ผ่านเว็บไซต์ okxweb3.tv โดยคนร้ายได้สอนวิธีการเทรดบิทคอยน์
การโอนเงินเพื่อเปิดพอร์ต และลงทุนเทรดหุ้นต่างๆ เพื่อเก็งกำไร
ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้สมัครเปิดพอร์ตและเริ่มเทรดหุ้น โดยโอนเงิน จำนวน 1 ครั้งไปยังบัญชีธนาคารคนร้าย จำนวน 500,000 บาท แต่หลังจากผู้เสียหายโอนเงินไปแล้ว กลับไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ จึงเชื่อว่าตนเองถูกหลอกลวงให้โอนเงิน จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี
ต่อมา พนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.2 สามารถอายัดเงินในบัญชีของคนร้ายไว้ได้เป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท และยังพบว่าเจ้าของบัญชีรายนี้ ยังมีความเชื่อมโยงกับคดีหลอกลวงอื่นๆ อีก 10 คดี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอออกหมายจับคนร้ายซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารดังกล่าว
ต่อมา พ.ต.ท.ศราวุธ ตะดวงดี และ พ.ต.ท.บุญเสริม อนุมาตรฉิมพลี สว.กก.3 บก.สอท.2 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดเข้าจับกุมนายมิตร อายุ 46 ปี เจ้าของบัญชีธนาคารดังกล่าว ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดราชบุรี ที่ 245/2568 ลงวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ในความผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุนฐานฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น , โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง และเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้เจตนาเพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้ หรือยืมใช้หมายเลขโทรศัพท์ สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน”
จากกรณีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถประสานงานธนาคารเพื่ออายัดเงินในบัญชีธนาคารของนายมิตร
ไว้ได้ เป็นจำนวน 500,000 บาท เบื้องต้น เจ้าตัวยอมรับว่าเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารดังกล่าวจริง แต่ปฏิเสธว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลอกลวงและเงินที่อายัดไว้ จึงขอไม่โต้แย้งในกรรมสิทธิ์และยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมอบเงินในบัญชีตามจำนวนดังกล่าวคืนให้แก่ผู้เสียหาย ส่วนผู้ต้องหารายอื่นอยู่ระหว่างสืบสวนจับกุม
วันนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดติดตามคดี จึงได้ร่วมกันนำเงินจำนวน 500,000 บาท มอบคืนให้แก่ผู้เสียหาย ตามโครงการ “MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้าคว้าเงินคืน”
*********************************************
ขอขอบคุณที่เผยแพร่ข่าวสาร
กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี