ตำรวจภูธรภาค ๑ จับกุมเครือข่ายยาเสพติด เตรียมส่งเข้าพื้นที่ปริมณฑล ยึดยาบ้า ๔,๘๐๐,๐๐๐ เม็ด มูลค่ากว่า ๑๔๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
1 min readตามนโยบายของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี, นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ,พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ,นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. และนายธนากร คัยนันท์ ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ที่เน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติด ทั้งระบบด้วยการสืบสวนขยายผลวิเคราะห์ความเชื่อมโยงเครือข่ายของนักค้ายาเสพติดอย่างรู้เท่าทันเพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาตั้งแต่ ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง ได้อย่างมีประสิทธิภาพสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., และพล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้สั่งการให้มีการสืบสวนสอบสวนขยายผลจากกรณีจับกุมยาเสพติดรายสำคัญทุกราย รวมถึงวิเคราะห์ความเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ลำเลียง ผู้จัดเก็บ ผู้จำหน่าย และสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดจากแนวชายแดนเข้ามาถึงพื้นที่ชั้นในของประเทศไทยตำรวจภูธรภาค ๑
โดย พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.๑, พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.๑, พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.๑/รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.๑, บช.ปส. โดย พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง รอง ผบช.ปส. และ พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบช.ปส., ขกท. โดย พล.ต.อาทิตย์ ม่วงเล็ก ผบ.ขกท. , ขกท.ศปก.นสศ. โดย พ.อ.สุพจน์ สวาคฆพรรณ ผบ.ขกท.ศปก.นสศ./ผู้ทรงคุณวุฒิอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล กระทรวงมหาดไทย, บก.สส.ภ.๑ โดย พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.๑ ,พ.ต.อ.ประธาน นันทกอบกุล ,พ.ต.อ.วิทิต จันทร์เอี่ยม ,พ.ต.อ.มนเทียร เบ้าทอง รอง ผบก.สส.ภ.๑, ภ.จว.ปทุมธานี โดย พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี, พ.ต.อ.พีระพลโชติกะเสถียร รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี และ พ.ต.อ.หฤษฏ์ คำจุมพล ผกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี,สำนักงาน ป.ป.ส. ภาค ๑ โดย นางจีระพรรณ กาญจนประดิษฐ์ ผอ.ปปส.ภาค ๑ กระทรวงมหาดไทย โดยนายนิยม ช่างพินิจผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (ผู้แทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย) นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี, ร.ต.อ.เขตรัฐ ชาญศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน, นายศรัณย์ เกตุทอง นายอำเภอสามโคก และ ร.ต.ทองปอนด ถาวรสถิตย์ เลขานุการคณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล
พฤติการณ์ในการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการสืบสวนตำรวจภาค ๑ ได้ดำเนินการสืบสวนขยายผลการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ภาค 1 จนนำไปสู่การจับกุมนักค้ายาเสพติด และทีมลำเลียงยาเสพติดได้เป็นจำนวนมากหลายคดี จึงทำให้ทราบว่า ในห้วงวันที่ 6-7 มิ.ย.67 จะมีการลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือมาส่งมอบให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ชั้นในของประเทศไทย โดยใช้รถบรรทุก IZUZU สีน้ำเงิน ตู้ทึบสีขาว ทะเบียน 96-1698 กทม. ในการลำเลียงยาเสพติด จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้รับสั่งการให้สืบสวนจับกุม และได้บูรณาการกำลังสืบสวนติดตามความเคลื่อนไหว เพื่อทำการจับกุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง*** ต่อมา ในวันที่ ๗ มิ.ย.๖๗ จากการสืบสวนทราบว่ารถบรรทุก IZUZU คันเป้าหมาย ที่ใช้เป็นยานพาหนะในการลำเลียงยาเสพติด เข้ามาในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้สะกดรอยติดตามจนถึง ลานจอดรถริมถนนคลองหลวง ม. ๕ ต.เชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จว.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเพื่อทำการตรวจค้น และสามารถจับกุมตัวนาย ครรชิต หรือเก่ง กันยามา อายุ 30 ปีได้พร้อมของกลาง ดังนี้1.) ยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) จำนวนประมาณ ๔,๘๐๐,๐๐๐ เม็ด2.) รถบรรทุก IZUZU สีน้ำเงิน ตู้ทึบสีขาว ทะเบียน 96-1698 กทม. จำนวน ๑ คัน (ใช้สำหรับลำเลียงยาเสพติด)โดยกล่าวหาว่า นายครรชิต หรือ เก่งฯ กระทำความผิดฐาน “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยสามารถจับกุมได้ที่ บริเวณลานจอดรถริมถนนสายคลองหลวง หมายเลข ๓๒๑๔ ใกล้กับถนนวงแหวนเชียงรากใหญ่ม.๕ ต.เชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานีเวลาประมาณ ๑๑.๔๐ น.จากการสอบถามเพื่อขยายผล นายครรชิต หรือ เก่งฯ ยอมรับสารภาพว่าได้รับว่าจ้างจากนายโอ ให้ขับรถบรรทุกลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือมาส่งมอบให้กับผู้จำหน่ายในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีโดยได้รับค่าจ้างเป็นจำนวนเงิน ๓,๐๐๐ บาท การจับกุมในครั้งนี้ เป็นการยับยั้งการแพร่กระจายยาเสพติดไปสู่ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก
ซึ่งยาเสพติดของกลางหากถูกนำออกขายสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่าสูงถึงประมาณ ๑๔๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะขยายผลถึงกลุ่มลูกค้า ผู้สั่งการ และบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด โดยจะนำมาตรการสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ ฟอกเงิน และยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินการกับบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดต่อไป ขอประชาสัมพันธ์ประชาชน หากพบบุคคล รถต้องสงสัย หรือมีข้อมูลการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถติดต่อให้ข้อมูลได้ที่สถานีตำรวจทุกแห่ง หรือ สายด่วน 191 และ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำข้อมูลดังกล่าวไปสืบสวนขยายผลจับกุมผู้กระทำผิดต่อไป
(นสพ.อินไชด์โปลิศไทม์รายงาน ทีมข่าว ภาค 1 ผอ.หนุ่ม)