29 เมษายน 2025

หนังสื่อพิมพ์ อินไซด์โปลิคไทม์ – insidepolicetime.com

นังสื่อพิมพ์ อินไซด์โปลิคไทม์ – insidepolicetime.com

ตำรวจไซเบอร์ทลาย 2 เครือข่ายเงินกู้ดอกโหด จับเพจรับจำนำไอคลาวด์ดอกร้อยละ 240

1 min read

พร้อมรวบอดีตนักการเมืองท้องถิ่นรับจำนำรถ/ปืนร้อยละ 120
ตามนโยบาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรม
ออนไลน์เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน และ “นโยบายรัฐบาลในการจัดการปัญหาอาชญากรรมข้าม
ชาติยุค Digital Disruption” แก่ข้าราชการตำรวจระดับผู้บริหารทั่วประเทศ ในโครงการสัมมนาผู้บริหาร
ระดับผู้บัญชาการหรือเทียบเท่า และผู้บังคับการหรือเทียบเท่า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดย
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช.
ในฐานะ ผอ.ศปอส./ผอ.ศตคม.ตร. ได้ขับเคลื่อนนโยบายผ่าน พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ
ผู้รับผิดชอบควบคุมสั่งการ บช.สอท. และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ
รอง ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดสืบสวน
จับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว


วันพุธที่ 26 มี.ค.68 เวลา 14.00 น. ณ บริเวณชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ บช.สอท. (เมืองทองธานี)
นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์
คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต. ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1,
พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2, พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.3, พล.ต.ต.กฤตัชญ์
บำรุงรัตนยศ ผบก.สอท.4, พล.ต.ต.ศุภกร ผิวอ่อน ผบก.สอท.5 และ พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ ผบก.ตอท. พร้อม
เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวพร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์ทลาย 2 เครือข่าย
เงินกู้ดอกโหด จับเพจรับจำนำไอคลาวด์ดอกร้อยละ 240 พร้อมรวบอดีตนักการเมืองท้องถิ่นรับจำนำรถ/ปืนร้อยละ 120


สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดร่วมกันเร่งปราบปราม
การกระทำผิดทางอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และผู้ร้ายสำคัญ
โดยเฉพาะเครือข่ายผู้ให้บริการสินเชื่อผิดกฎหมาย ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จน
นำมาสู่ผลการปฏิบัติสำคัญ จำนวน 2 ปฏิบัติการ ดังนี้
ปฏิบัติการที่ 1: กก.1 บก.สอท.2 จับกุมเพจปล่อยกู้ดอกโหดร้อยละ 240 ยึดรหัสไอคลาวด์เป็นตัวประกัน
สืบเนื่องจากตำรวจไซเบอร์ได้ตรวจสอบพบว่ามีเพจเฟซบุ๊คชื่อ “Care apple phone ซื้อขายฝากไอโฟน
รับซ่อมครบวงจร” ได้โพสต์ประกาศให้กู้เงินด่วนพร้อมติดแฮชแท็ก “#จำนำไอคราว #ฝากไอคราว #ปล่อยกู้ไอโฟน”
โดยในเพจดังกล่าวมีการประกาศชักชวนและอธิบายวิธีการกู้ยืมเงินในอัตราดอกเบี้ยที่เกินกว่ากฎหมายกำหนด
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.2 ได้สืบสวนกรณีดังกล่าว ทำให้ทราบวิธีการกู้เงินของเพจดังกล่าวคือ
ผู้กู้จะต้องแจ้งขอใช้บริการ “ไอคลาวด์แลกเงิน” โดยเป็นการกู้เงินด้วยการนำข้อมูลรหัสไอคลาวด์ (iCloud)
ให้ผู้กู้ไว้เป็นหลักประกัน หากผู้กู้ไม่ชำระหนี้ตามกำหนดหรือผิดสัญญาไม่ชำระเงิน บัญชีไอคลาวด์ดังกล่าว
จะถูกผู้ให้กู้แก้ไขเพื่อล็อกรหัส ทำให้ผู้กู้ไม่สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้


นอกจากนี้ ก่อนการกู้สินเชื่อ ผู้กู้ต้องถ่ายภาพใบหน้าตนเองคู่กับบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง พร้อมกับ
แจ้งข้อมูลชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ผู้กู้ ข้อมูลคนรู้จักที่สามารถติดต่อได้ เลขบัญชีธนาคารที่ชื่อตรงกับ
บัตรประชาชน บัญชีโซเชียลของผู้กู้ เช่น ชื่อบัญชีไลน์ ชื่อบัญชีเฟซบุ๊ก, ชื่อบัญชีอินสตราแกรมของผู้กู้
และหมายเลขประจำเครื่องของโทรศัพท์มือถือ (รหัส IMEI)
โดยเพจเฟสบุ๊กดังกล่าว มีการปล่อยเงินกู้โดยคิดดอกเบี้ยทั้งแบบทั้งรายวัน รายอาทิตย์ และรายเดือน ซึ่งเป็น
การคิดดอกเบี้ยเกินอัตรากว่าที่กฎหมายกำหนด ยกตัวอย่างเช่น หากผู้กู้ประสงค์กู้เงินโดยการจำนำไอคลาวด์
ในวงเงินจำนวน 6,000 บาท ผู้กู้จะถูกหักเงินงวดแรก 10 เปอร์เซ็น คิดเป็นเงิน 600 บาท เหลือได้รับเงินจริง
5,400 บาท โดยคิดดอกลอย เดือนละ 1,200 บาท และจำกัดส่งดอกเพียง 6 งวด โดยงวดที่ 7 จะต้องส่งเงิน
ต้นรวมกับดอกคิดเป็นเงินจำนวน 7,200 บาท สรุปแล้ว ในระยะเวลา 6 เดือน ผู้กู้จะต้องชำระดอกเบี้ย
7,200 บาท จากเงินต้น 6,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 20 ต่อเดือน หรือ ร้อยละ 240 ต่อปี ซึ่งเป็นอัตรา
ดอกเบี้ยที่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
จากการสืบสวนทำให้ทราบว่า บัญชีเพจเฟชบุ๊กดังกล่าว มีการจดทะเบียนนิติบุคคล ชื่อ ห้างหุ้นส่วนจำกัด
แคร์โฟน 65 โดยมี นางสาวเมธาวี อายุ 26 ปี เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ โดยไม่ได้มีการขออนุญาตประกอบธุรกิจ
สินเชื่อเป็นนิติบุคคลแต่อย่างใด
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวมรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้นได้สำเร็จ กระทั่ง พ.ต.ท.โรจน์ศักดิ์ นัยผ่องศรี
รอง ผกก.1 บก.สอท.2 พ.ต.ท.ทัศไนย อนันทิโย, พ.ต.ท.ชยกฤต จันหา สว.กก.1บก.สอท.2 พร้อมกำลัง
เจ้าหน้าที่ในสังกัดร่วมกันนำหมายค้นศาลจังหวัดลพบุรี ที่ 31/2568 ลงวันที่ 25 มี.ค.68 เข้าตรวจค้นร้าน
Care apple phone ถนนนเรศวร ถนนเอราวัณ ปากซอยนเรศวร 11 ต.เขาสามยอด อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี
ผลการตรวจค้นสามารถจับกุมนางสาวเมธาวี อายุ 26 ปี ในข้อหา “ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้
รับอนุญาต” และ “ให้บุคคลกู้ยืมเงิน เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้” พร้อมทั้งตรวจยึดของกลาง
เป็นคอมพิวเตอร์ Apple MacBook จำนวน 1 เครื่อง, คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก Acer Nitro จำนวน 1 เครื่อง,
โทรศัพท์มือถือ iPhone จำนวน 2 เครื่อง และเอกสารสัญญาขายฝาก Care apple phone จำนวน 1 ฉบับ
เบื้องต้น ผู้ต้องหายอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงร่วมกันนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อไป
ปฏิบัติการที่ 2: กก.วิเคราะห์ข่าฯ บก.สอท.3 รวบอดีตนักการเมืองท้องถิ่นรับจำนำรถ/ปืน ดอกโหดร้อยละ 120
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า มีอดีตนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่ง
ในพื้นที่เมืองขอนแก่น มีพฤติกรรมปล่อยเงินกู้ รวมทั้งรับจำนำรถยนต์และอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย จึงได้
ร่วมกันสืบสวนจนทราบว่าบุคคลดังกล่าวคือ นายศักดิ์ชาย หรือ เอส อายุ 54 ปี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน
ขออำนาจศาลแขวงขอนแก่นเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 2 จุด ดังนี้


จุดที่ 1 บ้านพักในพื้นที่ ม.7 ต.สาวะถี อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น
ผลการตรวจค้น พบนายศักดิ์ชาย หรือ เอส อายุ 54 ปี ภายในบ้าน พร้อมด้วยอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม.
จำนวน 2 กระบอก และเครื่องกระสุนปืน จำนวน 54 นัด ถูกซุกซ่อนไว้บริเวณช่องเก็บของข้างโซฟานั่งเล่น
ภายในบ้านของผู้ต้องหา และตรวจพบหนังสือสัญญาจำนำรถ, เอกสารหลักฐานค้างจ่ายค่าจำนำรถ, เอกสาร
การค้างจ่ายที่ยังไม่ถึงกำหนด และกระดานไวท์บอร์ดที่มีข้อมูลการจดรายการจำนำรถอยู่ภายในห้องนอนชั้น 1
ส่วนบริเวณภายนอกบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบรถยนต์ โตโยต้า ฟอจูนเนอร์ สีขาว ถูกจอดไว้ในโรงรถ
จำนวน 1 คัน
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าอาวุธปืนดังกล่าวไม่ใช่ของนายศักดิ์ชายฯ โดยเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นของคนอื่น
ที่นำมาฝากไว้กับตน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบและสืบสวนขยายผลอาวุธปืนดังกล่าวต่อไป
ส่วนเอกสารที่ตรวจพบ นายศักดิ์ชายฯ ยอมรับว่าเอกสารดังกล่าวเป็นของตนเองจริง โดยเก็บไว้เพื่อเป็น
หลักฐานในการติดตามทวงเงินจากลูกหนี้ ส่วนรถยนต์ โตโยต้า ฟอจูนเนอร์ ผู้ต้องหารับว่าเป็นรถยนต์ที่
ชาวบ้านนำมาจำนำไว้ ตนจึงได้นำมาใช้ขับขี่เป็นประจำ
จุดที่ 2 ที่โกดังไม่มีเลขที่ ม.19 ต.สาวะถี อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น (ห่างจากจุดที่ 1 ประมาณ 3 กม)
พบว่าเป็นโกดังที่ถูกปิดล้อมด้วยแผ่นสังกะสี ตรวจค้นภายใน พบพบรถยนต์ที่นายศักดิ์ชายฯ รับจำนำจาก
ประชาชนทั่วไปอีก จำนวน 17 คัน (รวมที่ตรวจพบที่บ้านอีก 1 คัน เป็นจำนวน 18 คัน)
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, และ
จัดตั้งโรงรับจำนำโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยผู้ต้องหายอมรับว่ารถยนต์ทั้ง 18 คัน เป็นรถยนต์ของบุคคลอื่นที่ได้
นำมาจำนำไว้กับตน โดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน หรือร้อยละ 120 ต่อปี โดยให้ผู้กู้นำรถยนต์
มาวางเป็นทรัพย์สินค้ำประกันไว้ โดยตนเองไม่มีเอกสารจัดตั้งโรงรับจำนำแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัว
พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
*********************************************
ขอขอบคุณที่เผยแพร่ข่าวสาร
กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You may have missed